เผยไทยมีอัตราป่วยโควิด-19ตาย 0.77%

เผยไทยมีอัตราป่วยโควิด-19ตาย 0.77%

ยอดติดโควิด-19เพิ่ม 745 ราย สูงสุดในจ.สมุทรสาครกว่า 500 ราย เหตุค้นหาเชิงรุกในชุมชนมากขึ้น กระจาย 54 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย จับตาหลังปีใหม่อีก 1-2สัปดาห์ ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เผยอัตราป่วยตายของไทยอยู่ที่ 0.77% ย้ำผู้มีประวัติเสี่ยงให้เข้าตรวจ

เมื่อเวลา 11. 30 น.วันที่ 4 ม.ค.2564 ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 745 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 152 ราย ค้นหาเชิงรุก 577 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค(Quarantine) 16 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 8,439 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,379 ราย รักษาหายแล้ว 4,352 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสมที่ 65 ราย โดยขณะนี้ประเทศไทยมีอัตราป่วยเสียชีวิตอยู่ 0.77% ส่วนทั่วโลกอยู่ที่ 2%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า รายที่เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพรับจ้าง กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง มีประวัติไปพื้นที่เสี่ยงแถวสมุทรปราการและคลองเตย โดยวันที่ 28 ธ.ค.มารักษาแผนกผู้ป่วยนอกในรพ.แห่งหนึ่งในกทม. มีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ รับประทานอาหารไม่ได้ และวันที่ 30 ธ.ค.มีอาการเหนื่อยมากขึ้น มีไข้ 38 องศา ความอิ่มตัวออกซิเจนในเลือดตกลง ปอดอักเสบ พบเชื้อโควิดในวันที่ 1 ม.ค. และวันที่ 2 ม.ค.เหนื่อยมากขึ้น ใส่ท่อช่วยหายใจ วันที่ 3 ม.ค.อาการแย่ลง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 152 ราย แยกเป็น มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยงและสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 60 รายในจ.กรุงเทพฯ 27 ราย นนทบุรี 1 ราย นครปฐม 2 ราย ปทุมธานี 9 ราย เพชรบุรี1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย พิจิตร 3 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย สมุทรสงคราม 2 ราย อ่างทอง 12 อยุธยา 1 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 92 ราย ในกรุงเทพฯ 1 รายสมุทรสาคร 36 ราย สมุทรปราการท20 ราย ระยอง 17 ราย ชลบุรี 13 รายและจันทบุรี 5 ราย และกลุ่มค้นหาเชิงรุกในชุมชน(แรงงานต่างด้าว) 577 ราย ในจ.ชัยนาท 1 ราย สมุทรสาคร 505 ราย ระยอง 25 ราย ชลบุรี 22 ราย จันทบุรี22 ราย และตราด 2 ราย

“แม้วันนี้จะเจอการกระจายตัวไปในจังหวัดต่างๆค่อนข้างจะนิ่ง เพิ่มมา 1 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ รวม 54 จังหวัด แต่สิ่งนี้เป็นผลจากเมื่อ 1-2 สัปดาห์ก่อน ส่วนสิ่งที่กังวลใจอยู่ที่การเดินทางกลับภูมิลำเนาตอนช่วงปีใหม่ ซึ่งจะส่งผลในอีก 1-2สัปดาห์หรือ14 วันข้างหน้า เพราะฉะนั้นยังนิ่งนอนใจไม่ได้ จึงมีการสั่งการจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ สธ. และนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ.ว่า ต้องมีการติดตามตะครุยสะเก็ดไฟที่กระจายออกไปในจังหวัดต่างๆนี้ให้ได้โดยเร็ว ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน คนที่มีประวัติเสี่ยง ไปสถานที่เสี่ยง หากรู้ตัวเองให้รีบมาตรวจ ซึ่งจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

เมื่อถามว่าตัวเลขผู้ป่วยที่จ.สมุทรสาคร เพราะอะไรจึงตรวจเจอเชื้อได้มากขนาดนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การไปสอบสวนโรคเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวในโรงงาน หอพักที่แออัด ซึ่งยังให้พวกเขาอยู่ที่เดิม ไม่ได้ให้ออกมา เพราะมีจำนวนมาก และตามกระบวนการจำเป็นต้องมีการตรวจเป็นระยะๆ มีการสุ่มตรวจ จนมีการเห็นตัวเลขตรงนี้ออกมา จึงนำเรียนว่าไม่ได้เกินไปกว่าความคาดหมาย เพราะคนที่อาศัยอยู่จำนวนมาก และมีความแออัด และยังอยู่ระยะเวลาของการติดเชื้ออยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นในจ.สมุทรสาคร จะมีรพ.สนาม วางอีกรูปแบบให้มั่นใจว่าเชื้อจะอยู่จำกัดในวงที่วางไว้