ศาลพิพากษาจำคุกแนวร่วมนปช.มีระเบิด 20 ลูก

ศาลพิพากษาจำคุกแนวร่วมนปช.มีระเบิด 20 ลูก

ศาลพิพากษาคดี 2 แนวร่วม นปช. ครอบครองระเบิดสังหาร RGD 5  20 ลูก จำคุก 2 ปี 1 ราย แต่ยกฟ้องมือปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัย เหตุฟ้องซ้ำกับคดีที่ถูกจำคุกตลอดชีวิตไปแล้ว

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ศาลอาญารัชดา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีมีระเบิดสังหารในครอบครอง ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายกฤษดา หรือ ดา ไชยแค อายุ 49 ปี และ นายพัสนัย หรือ เอก พนัส อายุ 45 ปี แนวร่วม นปช. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 ที่นายทะเบียน ไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ได้ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฯ จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. 56 - 13 ส.ค. 57 ต่อเนื่องกันจำเลยทั้งสองกับพวก ได้มีระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ RGD5 และชุดเรือนชนวนจำนวน 20 ลูก เหตุเกิดที่แขวง-เขตบางซื่อ กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

เบื้องต้นจำเลยให้การรับสารภาพ โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เบิกตัวทั้งสองจากเรือนจำ ซึ่งในส่วนของ นายกฤษดา นั้น เมื่อวันที่ 12 มี.ค ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้พิพากษาจำคุกชีวิต ในคดีหมายเลขดำเลขที่ อ.426 /2563 กรณีเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2557 นายกฤษดา ได้ปาระเบิดใส่เวทีผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 26 ราย และศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ แต่จำเลยที่ 1 ถูกฟ้องในข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 ที่นายทะเบียน ไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ได้ ที่เคยถูกฟ้องในคดีหมายเลขแดง อ.588/2563 ไปแล้ว ซึ่งในส่วนของจำเลยที่ 1 เห็นว่า เป็นการทำผิดในช่วงเวลาเดียวกัน และศาลได้มีคำพิพากษาเด็ดขาดไปแล้ว การที่โจทก์นำมาฟ้องอีกย่อมต้องระงับไป เนื่องจากไม่เป็นธรรมกับผู้ต้องหา ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดตามฟ้อง เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด คดีร่วมกันมีวัตถุระเบิดฯ จำคุก 4 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี ส่วนที่อัยการโจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีของศาลอาญามีนบุรี ขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่มีคำพากษาจึงไม่สามารถนับโทษต่อได้