'ติดเชื้อโควิดสมุทรสาคร' ทีมควบคุมโรคลุย ตรวจทุกคนตลาดแพกุ้ง-แพปลา

เกาะติด "ติดเชื้อโควิดสมุทรสาคร" ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคลุย ตรวจทุกคนตลาดแพกุ้ง-แพปลา

ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค สสจ.สมุทรสาคร, รพ.สมุทรสาคร และ กรมควบคุมโรค (สคร.5 ราชบุรี กองระบาดวิทยา) ได้นำห้องตรวจปลอดเชื้อเคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์ตรวจเชื้อโควิด – 19 ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองผู้ที่พักอาศัยอยู่ในตลาดกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร คืนวานนี้ ซึ่งขณะที่เข้าตรวจนั้นมีจำนวนกว่า 100 คน ส่วนที่เหลือได้แยกย้ายกันกลับห้องพักที่เช่าอยู่ที่อื่นไปแล้ว แต่ทั้งนี้ทีมปฏิบัติการฯ ก็จะได้เข้าตรวจอีกครั้งในช่วงเช้ามืด 18 ธันวาคม เพื่อตรวจหาเชื้อในกลุ่มแรงงานที่เข้ามาทำงานแต่เช้า แลยังไม่ได้รับการตรวจคัดกรองโรค

นอกจากนี้ ทางเทศบาลนครสมุทรสาคร ก็ได้ลงมาทำการล้างแพกุ้ง และแพปลา ในพื้นที่ตลาดกุ้งสมุทรสาครแล้ว หลังจากที่ได้รับการยืนยันว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด – 19 จำนวน 1 ราย แต่ทั้งนี้ก็จะได้นำเจ้าหน้าที่ลงมาล้างซ้ำอีก 18 ธ.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และผู้ที่ทำงานอยู่ในบริเวณดังกล่าว ถึงการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด – 19

ทั้งนี้หลังจาก นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร และ พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค สสจ.สมุทรสาคร, รพ.สมุทรสาคร และ กรมควบคุมโรค (สคร.5 ราชบุรี กองระบาดวิทยา) ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019 โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร 1 ราย ณ ห้องประชุมพระนรราชจำนง โรงพยาบาลสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นหญิงอายุ 67 ปี อาชีพค้าขาย (เจ้าของแพปลา) ในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร เริ่มต้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 มีอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งพบว่ามีผลเป็นบวก จึงส่งมาเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร และจากการสอบสวนโรคอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 การตรวจ 2 ครั้งจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร และ ศวก.ที่ 5 สมุทรสงคราม พบผลเป็นบวก แพทย์ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด – 19

ขณะนี้อยู่ในระหว่างการกักกันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ส่วนผู้ใกล้ชิดที่ถูกกักกันตัวไว้เพื่อเฝ้าดูอาการด้วยนั้นมีด้วยกัน 4 กลุ่มทั้งหมดรวม 18 คน ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ลูกชายคนที่ 2 (ชาย 31 ปี) กับ เพื่อนลูกชาย (หญิง 25 ปี) ผลไม่พบเชื้อ กักกันที่รพ.สมุทรสาคร , กลุ่มที่ 2 มารดาผู้ป่วยติดเตียง (หญิง 95 ปี) ,น้องชายผู้ป่วย (ชาย 57 ปี), น้องสะใภ้ (หญิง 57 ปี) , พี่สาวคนโต (หญิง 73 ปี) , แม่บ้าน (ไป-กลับ) (หญิง 56 ปี ) ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผล กักกันที่บ้าน, กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยในช่วงขายของ คือ ลูกชายคนที่ 1 (ชายอายุ 39 ปี)กักกันตัวที่โรงพยาบาล , ลูกจ้างพม่าชาย 40 ปี กับ ลูกจ้าพม่าชายอายุ 48 ปี อยู่ระหว่างติดตามมาเก็บตัวอย่างและกักกัน ส่วนกลุ่มที่ 4 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยอีกว่า สำหรับต้นตอของเชื้อโควิด – 19 ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรคว่ารับเชื้อมาจากใคร ซึ่งขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร รอฟังการแถลงข่าวจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หรือบุคลากรที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น อย่าเชื่อข่าวลือโดยยังไม่ผ่านการคัดกรองเด็กขาด

ส่วนมาตรการในการควบคุมโรค ได้แก่ ผู้ป่วยได้รับการรักษาและแยกกักในโรงพยาบาล ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 18 ราย (ในครอบครัวในสถานประกอบการใน สถานพยาบาล) ได้รับการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ และกักกัน เก็บตัวอย่างแล้ว 16 ราย (ผลลบ 10 ราย รอผล 6 ราย) ส่วนอีก 2 ราย (แรงงานพม่า) อยู่ระหว่างติดตามทำการสอบสวนโรค ค้นหา คัดกรอง และเก็บตัวอย่างผู้สัมผัสเพิ่มเติมในตลาดกุ้ง ได้แก่ ผู้ค้า ผู้ซื้อ และแรงงานในตลาดกุ้ง ลูกค้าที่มาซื้อปลาเป็นประจำ และ ผู้ที่ติดต่อกับผู้ป่วย , 2.ผู้บริหารตลาดให้ความร่วมมือในการหยุดให้บริการตลาดกุ้ง 1 วัน ในส่วนแพปลาที่พบผู้ป่วยจะหยุดให้บริการจนครบ 3 วัน และทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ตลาดกุ้ง แพกุ้ง แพปลาสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อลดความตระหนักของประชาชน รวมทั้งเน้นย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้น ระยะห่างระหว่างบุคคล ทำความสะอาดพื้นผิว โดยเฉพาะที่สาธารณะบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่ชุมชน,เน้นย้ำสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังผู้ที่มี อาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค โดยเฉพาะ ผู้ที่มีประวัติไป แพปลา แพกุ้ง ที่ เดียวกับผู้ป่วย หรือสถานที่เดียวกับที่ผู้ป่วยเคยไปในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้มในเรื่องมาตรการจับปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากก่อนออกจากบ้าน โดยใช้มาตรการตามที่จังหวัดสมุทรสาครเคยประกาศใช้ปรับไม่เกิน 20,000 บาท