“เถ้าแก่น้อย” ตีโจทย์ธุรกิจใหม่ ลุยเครื่องดื่ม ลดเสี่ยงสแน็คสาหร่าย

“เถ้าแก่น้อย” ตีโจทย์ธุรกิจใหม่  ลุยเครื่องดื่ม ลดเสี่ยงสแน็คสาหร่าย

16 ปี เป็นก้าวย่างของขนมขบเคี้ยว(สแน็ค)สาหร่ายแบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” จากเด็กวัยรุ่นติดเกม ผันตัวเองมาสวมบทนักธุรกิจวัยกระเตาะ และใช้เงินทุน 1 ล้านบาท สร้างกิจการจนเติบใหญ่มีรายได้หลักพันล้านบาท

ทว่า ธุรกิจที่เคยเติบโตเป็นดาวรุ่ง ต้องเจออุปสรรคเป็นบททดสอบบ้าง แต่ปี 2563 ข้อสอบใหญ่คือการฝ่าวิกฤติโควิด-19 หนักสุดในรอบ 16 ปีของการตั้งบริษัทมา

ปีนี้หนักกว่าตอนตั้งบริษัทใหม่ๆ เพราะตอนนั้นผมเริ่มต้นทำธุรกิจสแน็คสาหร่ายคนเดียว แต่ปัจจุบันผมมีทีมงาน พนักงานที่ต้องดูแล คู่ค้า พันธมิตร มีคนเกี่ยวข้องในองค์กรธุรกิจจำนวนมาก” อิทธิพัทธ์   พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ฉายผลกระทบที่ได้รับจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ทำให้ยอดขายสินค้าหดตัวรุนแรง เพราะนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นขุมทรัพย์สำคัญหายไป

160822872356

ผลกระทบเถ้าแก่น้อย ช่วงโควิด-19 ระบาดเดือน มี.ค.2563

เมื่ออำนาจซื้อจากชาติมังกรหายทั้งในไทยและตลาดส่งออก ทำให้บริษัทต้องแก้เกมเพื่อให้อยู่รอดอย่างรวดเร็ว ทั้งลดต้นทุน และหาแนวทางใหม่ในการเคลื่อนธุรกิจให้พ้นปากเหว เนื่องจากพอร์ตโฟลิโอสินค้า พึ่งพาสแน็คสาหร่ายมากถึง 90% และปี 2563 ตลาดสแน็คมูลค่า 30,000 ล้านบาท ปีนี้ติดลบประมาณ 3% แม้สินค้าบางหมวด เช่น มันฝรั่ง อาจจะเติบโต แต่สาหร่ายที่มีมูลค่าตลาดรวมราว 3,000 ล้านบาท กลับตกอยู่ใน แดนลบ” ถึงอัตรา 2 หลัก จากปกติสามารถสร้างการเติบโตได้ 5%

เราต้องการขยายธุรกิจใหม่ อะไรที่ทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างยังยืน ต้องทำหมด และเรามีกลยุทธ์ที่วางไว้ 3 Go”

3 Go ประกอบด้วย Go firm การฟิตองค์กรให้พร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ อย่างแรกที่บริษัททำ ได้แก่ การปิดร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์ จาก 19 สาขา เหลือเพียง 5 สาขาเท่านั้น แต่บริษัทยังพิจารณา ปิดร้านเพิ่ม” แต่ได้หารือกับคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด)เพื่อจะกัดฟันเปิดต่อไปอีกระยะ รอสถานการณ์ดีขึ้น และมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาจับจ่ายใช้สอย สร้างรายได้หล่อเลี้ยงธุรกิจ และมี 20 โปรเจคที่เตรียมจะเดินหน้าตั้งแต่ซื้อวัตถุดิบ จนผลิต เพื่อลดการสูญเสีย เพิ่มประสิทธิภาพผลิต เป็นต้น  

ตอนนี้เราลีน(Lean)ในระดับหนึ่ง ก่อนหน้าโควิดเรายังเป็นเต่าที่อ้วน

Go Broad  การขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้กว้างขึ้น ปิดท้ายด้วย Go Global เป้าหมายการสร้างแบรนด์เถ้าแก่น้อยให้เป็นแบรนด์ระดับโลก จากปัจจุบันส่งออกสาหร่ายไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก มี จีน” เป็นหมุดหมายสำคัญ ตามด้วยสหรัฐฯ ที่มีโรงงาน อิทธิพัทธ์” อยากปั้นตลาดให้เป็นเหมือนจีน2” ด้วย ทั้งนี้การบุกตลาดโลกถือเป็นภารกิจโหดหินสุด จะไปอยู่จุดนั้นได้ 2 Go แรกต้องสำเร็จและแข็งแรงก่อน

ยุทธศาสตร์ดังกล่าว เป็นการเดินเกมกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจในระยะยาว แต่ระยะสั้นคือภารกิจกอบกู้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ให้ยืนหยัดอยู่รอดได้ ซึ่ง “อิทธิพัทธ์” เลือกลุยตลาดเครื่องดื่ม ที่ไม่ใช่คร้้งแรกในการกระโดดสู่วงการดังกล่าว แต่ระลอกนี้ ประกาศบุกตลาด ชานม” แบบพาสเจอร์ไรส์ ที่มีมูลค่าตลาด 16,000 ล้านบาท จากตลาดนมพร้อมดื่มกว่า 60,000 ล้านบาท

160822844175

"จัสท์ดริ้งค์" ชานม TOP 3 จากไต้หวัน ความหวังใหม่!ของ "เถ้าแก่น้อย"

แบรนด์ชานมจัสท์ดริ้งค์”(JUSTDRINK) หรือ ฉุน ชุ่ย เฮอ เป็นความมร่วมมือที่เถ้าแก่น้อยผนึก ไต้หวัน บิฟิโด ฟู้ด ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่มของไต้หวัน ให้สิทธิ์ผลิตสินค้าชานมนอกไต้หวันเป็นชาติแรก มี โทฟุซัง” รับจ้างผลิต ประเดิมกำลังผลิตเบื้องต้น 15,000 ขวดต่อวัน และจะเพิ่มกำลังผลิตให้แตะ 2 แสนขวดต่อวัน ส่วนช่องทางจำหน่ายมีร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น” 6,000 สาขา เสิร์ฟกลุ่มเป้าหมาย

รายงานจากนีลเส็น ระบุว่า ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มลำดับแรกๆ คือผลิตภัณฑ์นมจึงเป็นโอกาสของจัสท์ดริ้งค์ในการชิงแชร์นักดื่ม(Share of Throat) สร้างการเติบโต(Share of Growth) จาก 2 ตลาด ทั้้งตลาดชานม 3,000 ล้านบาท และตลาดนมพาสเจอร์ไรซ์ 19,000 ล้านบาท

 การเลือกทำตลาดชานมฟื้นธุรกิจ เพราะมองเป็นสินค้าที่อยู่ในกระแส หลายปีที่ผ่านมายังเติบโตต่อเนื่อง 2 หลัก จึงคาดว่าจะขี่คลื่นดังกล่าวสร้างการเติบโตได้ ยิ่งกว่านั้นหากสินค้าจุดตลาดติด บวกกับนักท่องเที่ยวจีนกลับมาจัสท์ดริ้งค์จะเป็นฮีโร่ของเถ้าแก่น้อย เพราะแค่การออกสตาร์ท บริษัทยังตั้งเป้ายอดขาย 200-300 ล้านบาท

วิกฤติโควิดทำให้เราต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่(Invent) พาธุรกิจตัวเองออกจากสแน็คสาหร่าย เพราะโอกาสและขอบเขตเล็กเกินไป เราจะต้องหาสินค้าหมวดใหม่ๆ ลูกค้า ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ประกอบกับเราต้องการจะไประดับโลกด้วย จึงต้องคิด วางวิชั่นระดับโลก มองตลาดโลก การทำตลาดประเทศเดียวไม่ใช่เกม Long term เพราะอาจมีประเทศอื่นที่มีธุรกิจเดียวกัน มาเอาชนะเราได้