นายกฯจ่อเปิด ‘คนละครึ่ง' เฟส3 ‘ดีแทค’ เริ่มเยียวยาลูกค้าวันนี้
นายกฯ เล็งต่อมาตรการ“คนละครึ่ง” เฟส 3-4 “คลัง” หาแนวทางช่วยผู้ลงทะเบียน เฟส 2 ติดปัญหา OTP จี้ กสทช.ตรวจสอบ “ดีแทค” เหตุระบบขัดข้อง ด้าน ‘ดีแทค’ แจงเกิดปัญหาระบบฟิลเตอร์คัดกรองลูกค้าขัดข้อง เร่งส่ง “เอสเอ็มเอส”
กระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 2 จำนวน 5 ล้านคน วานนี้ (16 ธ.ค.) ตั้งแต่เวลา 06.00 น.และเต็มในเวลา 8.06 น. โดยปริมาณการลงทะเบียนเข้ามาหนาแน่นมากในช่วง 6.40 น.ทำให้ระบบการลงทะเบียนมีความล่าช้า และมีปัญหาการรับรหัส OTP ของผู้ใช้บริการดีแทค
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพิจารณาดูว่า งบประมาณเพียงพอหรือไม่ จำเป็นต้องทำต่อหรือไม่อาจจะมีเฟส 3-4 ต่อได้ขึ้นกับสถานการณ์โควิด-19 และขึ้นกับการเงินการคลัง ซึ่งทุกคนทราบดีว่ารัฐบาลผ่อนคลายให้ทุกอย่างแล้ว แต่ปัญหาของเราคือรายได้จะบอกว่ารัฐบาลไม่ดูแลเศรษฐกิจเลยมันไม่ได้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากระดับล่าง และเป็นสิ่งที่ดีที่ภาคเอกชนได้นำพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาหมุนเวียนขายในห้างสรรพสินค้า
ทั้งนี้ แนวคิดของโครงการคนละครึ่งได้ให้หลักการว่า ต้องจ่ายสมทบ โดยให้เจ้าหน้าที่ไปคิดรายละเอียดให้คุ้มค่า เพราะต้องการรักษางบประมาณของรัฐให้นานที่สุด และให้นโยบายว่าทุก 3 เดือน ต้องมีอะไรปล่อยออกมา
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่จะมีเฟส 3-4 จะประเมินว่า ความต้องการใช้จริงมีมากแค่ไหน เพราะข้อมูลที่มีอยู่ระยะแรกที่เปิดลงทะเบียน 10 ล้านสิทธิ์ มีประชาชนใช้จริง 9.5 ล้านรายและเหลือที่ไม่ใช้สิทธิ์ 4-5 แสนราย ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนส่วนที่เหลืออีกครั้งเดือน ม.ค.2564
“ต้องประเมินดีมานด์จริง และส่วนที่ล้นออกมาเป็นเท่าไหร่ และต้องดูด้วยว่าคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์มีเท่าไหร่ เพราะครั้งก่อนยังเหลือสิทธิ์ จึงต้องมาดูว่าจะออกมาตรการอีกหรือไม่”
เล็งให้สิทธิผู้ไม่ได้รับ OTP
นายอาคม กล่าวว่า กระทรวงการคลังอาจพิจารณาเพิ่มสิทธิโครงการคนละครึ่งให้ประชาชนที่ลงทะเบียนเฟส 2 แต่ไม่ได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งรหัส OTP เพื่อยืนยันการลงทะเบียน ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากระบบของดีแทค ส่วนเอไอเอสและทรูไม่มีปัญหา ซึ่งได้ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ามาดูปัญหาการการันตีคุณภาพการบริการ ในขณะที่ธนาคารกรุงไทยกำลังติดตามว่าจำนวนผู้ที่ไม่ได้รับ OTP
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะตรวจสอบว่าผู้ลงทะเบียน 5 ล้านคน มีคุณสมบัติครบหรือไม่ ซึ่งใช้เวลา 3 วันตรวจสอบและแจ้งสิทธิกลับไปยังผู้ลงทะเบียน ทั้งนี้ ผู้ที่รับการยืนยันสิทธิแล้วต้องใช้จ่ายภายใน 14 วัน หากไม่มีการใช้จ่าย ทางระบบจะตัดสิทธิ และเปิดให้ผู้ที่พลาดโอกาสเข้ามาลงทะเบียนเพิ่ม รวมถึงผู้มีปัญหาไม่ได้รับ OTP ด้วย
“ต้องดูว่ามีผู้ไม่ผ่านสิทธิเท่าไหร่ และผู้ไม่ใช้จ่ายตามเงื่อนไขเท่าไหร่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้พลาดโอกาส ซึ่งหากมีผู้ใช้สิทธิเต็ม 5 ล้านคน อาจพิจารณาเพิ่มสิทธิให้กับคนที่ไม่ได้ OTP”
สำหรับกรณีที่แอพพลิเคชันเป๋าตังล่ม เกิดจากประชาชนแห่เข้ามาใช้กันมาก สาเหตุเพราะเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับสิทธิเฟสแรกเข้ามากดรับสิทธิ 500 บาทในเฟสที่สองด้วย เมื่อมีทั้งการใช้จ่ายและการเข้ามากดรับสิทธิ จึงทำให้ระบบรองรับได้ไม่ทัน
รับสิทธิร่วมจ่าย3,500บาท
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยอดการลงทะเบียนคนละครึ่งเฟสที่สองเต็ม 5 ล้านสิทธิเมื่อเวลา 8.06 น. โดยการลงทะเบียนเข้ามาหนาแน่นมากในช่วงประมาณ 6.40 น.ทำให้ระบบการลงทะเบียนมีความล่าช้า และผู้มีสิทธิจะใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับสิทธิเงินร่วมจ่ายจากรัฐ 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.2564
สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิมสามารถกดปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ในแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” โดยจะใช้จ่ายวงเงิน 3,000 บาทเดิม ได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.2564 และใช้จ่ายวงงินเพิ่มอีก 500 บาท ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2564
นายกฯนัดถกหน่วยงานเศรษฐกิจ
นายอาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมหารือถึงภาวะเศรษฐกิจไทย โดยคงกรอบวินัยการเงินการคลังตามกฎหมายที่กำหนดไว้ และคงระดับหนี้สาธารณะที่ระดับไม่เกิน 60% ของจีดีพี ซึ่งเป็นกรอบความยั่งยืนในการบริหารการเงินการคลังของประเทศ
“การทำนโยบายการเงินการคลังระยะกลางปี 2565-2568 ให้ความสำคัญกับการปรับลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นด้วย เรียกว่ารีดไขมันออกไป อย่างที่เราเคยพูดกันว่าบางกิจกรรม บางรายการที่ทำแล้วกลายเป็นงานประจำก็ต้องไปดูเพราะไม่ใช่การทำโครงการ ต้องให้ไปดูรายจ่ายประจำที่มีค่อนข้างสูงก็ต้องให้รายจ่ายประจำไปดู”
ทั้งนี้ วันที่ 23 ธ.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมร่วมกันของหน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงบประมาณ ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565
ดีแทคส่งเอสเอ็มเอสเยียวยาลูกค้าวันนี้
นางสาวทิพยรัตน์ แก้วศรีงาม รองประธานเจ้าบริหาร กลุ่มงานขายและบริการลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ให้สัมภาษณ์ รายการ “ห้องข่าวกรุงเทพธุรกิจ” เนชั่นแชนเนลช่อง 22 ว่า พร้อมเยียวยาให้ลูกค้าดีแทคที่ได้รับผลกระทบจากการลงทะเบียนมาตรการคนละครึ่งที่ได้รับรหัส OTP ล่าช้า โดยจะพิจารณาเยียวยาผ่านบริการของดีแทคในวงเงินไม่เกิน 3,500 บาท โดยจะส่งเอสเอ็มเอสไปยังลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้การชดเชยมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,500 บาท จะสามารถทำผ่านบริการทั้งระบบเติมเงิน และระบบรายเดือน เช่น โบนัสเติมเงิน โทรฟรี เน็ตฟรี และส่วนลดเมื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ โดยดีแทคจะติดต่อไปยังผู้ใช้บริการดีแทคที่ได้รับผลกระทบ ผ่านเอสเอ็มเอสโดยเร็วที่สุด เริ่มตั้งแต่วันนี้ (17 ธ.ค.) ทั้งนี้ เมื่อได้รับเอสเอ็มเอสจากดีแทคแล้ว สามารถติดต่อรับสิทธิ์ตามมาตรการชดเชย ตามรายละเอียดที่ระบุในเอสเอ็มเอสได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2563
แจงปัญหาตัวกรอง OTP พัง
ขณะที่วานนี้ (16 ธ.ค.) นายไตรรัตน์ วิริยะกุล รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เชิญผู้บริหารดีแทคหารือ และกล่าวภายหลังว่า สำนักงานกสทช.ได้รับรายงานตั้งแต่ช่วงเวลา 04.00 น.-08.00 น.ว่าระบบของดีแทคมีปัญหาทำให้ลูกค้าที่กดเพื่อขอรับรหัส OTP ในโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลไม่ได้ ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการของดีแทคไม่สามารถได้รับสิทธิ์ในโครงการดังกล่าว กสทช. จึงเชิญตัวแทนดีแทคมาชี้แจงรายละเอียด พร้อมถึงความรับผิดชอบในการเยียวยาให้กับลูกค้า
สำหรับปัญหาขัดข้อง เกิดจากระบบฟิลเตอร์ หรือ ตัวกรองระบบคัดกรองลูกค้าของดีแทคขัดข้อง โดยรายละเอียดทางเทคนิคของขั้นตอนการลงทะเบียน คือ เมื่อประชาชนไม่ว่าจะลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ หรือลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือ ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ในแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นระบบกลางของธนาคารกรุงไทยแล้ว เมื่อระบบได้รับข้อมูลระบบกลางของกรุงไทย จะส่งคำขอของประชาชนที่ต้องการ OTP ไปยืนยันตัวเองมาที่ระบบกลางอีกครั้ง
จากนั้นจะถึงขั้นตอนของผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือแต่ละรายคือ เอไอเอส ดีแทค และ ทรูมูฟ เอช จะใช้ฟิลเตอร์ดูดลูกค้าที่เป็นของตัวเองแล้วส่งรหัส OTP กลับไปให้ลูกค้าของตัวเองผ่านเอสเอ็มเอสแต่ในช่วงเวลาดังกล่าวระบบตัวกรองของดีแทคกลับไม่สามารถใช้งานได้
อย่างไรก็ตาม กสทช. ได้กำชับดีแทคและผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) รายอื่นให้ดูแลเครือข่ายให้มีคุณภาพ ไม่ควรเกิดปัญหาเช่นนี้อีก
