คนไทยจากท่าขี้เหล็กเดินทางกลับไทยแล้ว 107 ราย

คนไทยจากท่าขี้เหล็กเดินทางกลับไทยแล้ว 107 ราย

คนไทยจากท่าขี้เหล็กเดินทางกลับไทยแล้ว 107 ราย ผู้ว่าเชียงราย สั่งคุมเข้มหาเชื้อควบคู่กับป้องกันอาชญากรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลล่าสุด มีคนไทยเดินทางกลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก  ประเทศเมียนมา จำนวน 104 คน รวมเด็กด้วยจะเป็น 107 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองไปทำงานใน จ.ท่าขี้เหล็ก และมีคนที่เดินทางไปอย่างถูกต้องและกลับมาตามปกติเพียง 7 คน และพบว่าทางสาธารณสุขของเมียนมาได้ตรวจโควิด-19 ให้ทั้งหมดมาแล้ว ผลปรากฎว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อจำนวน 5 คน

ล่าสุดทาง พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้เดินทางไปตรวจดูความเรียบร้อยและรับทั้งหมดกลับมายังฝั่งไทยแล้ว โดยกรณีของผู้ที่ทางเมียนมาระบุว่าติดเชื้อนั้นได้มีการนำรถพยาบาลจากโรงพยาบาลท่าขี้เหล็กนำตัวไปส่งต่อให้รถโรงพยาบาลแม่สาย จากนั้นทุกคนได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานของฝั่งไทยทั้งหมดและรอผลการยืนยัน โดยก่อนหน้านั้นได้ให้ไปอยู่ที่สถานกักดูอาการหรือ local state quarantine และรอผลการตรวจเพื่อแถลงให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยชุดหน่วยปฏิบัติการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการยุทธกิจ ภายใต้แผนปฏิบัติการเชียงรายปลอดภัย Save Chiang Rai หรือ S.C.R. ในเส้นทางหรือพื้นที่ที่อาจมีบุคคลลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่หน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย โดยมีกำลังจากฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย สภ.เกาะช้าง ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ตชด.327 ชรบ. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติภารกิจ

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายให้ความสำคัญต่อการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกับสถานการณ์การแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ปัจจุบันประเทศไทยยังคงประสบปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในรูปแบบใหม่อยู่เป็นระยะ เช่น ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาสาธารณภัย ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงปัญหาบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศ ซึ่งหากภาครัฐทำการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวล่าช้าย่อมจะทำให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา ดังนั้น หน่วยงานในพื้นที่ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญลำดับแรกที่จะช่วยเหลือประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ จังหวัดเชียงรายจึงมีกำหนดให้ปล่อยชุดปฏิบัติการ S.C.R ในการตรวจสอบแรงงานต่างด้าว เพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง การทำงานโดยผิดกฎหมาย และเพื่อเป็นการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด และการก่ออาชญากรรมควบคู่ขนานไปพร้อมกันด้วย

โดยปฏิบัติการดังกล่าวเนื่องจากมีผู้ลักลอบเข้าเมืองจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน เมียนมา และเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 เดินลัดเลาะตามเส้นทางธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ ทำให้เกิดความกังวลของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะจากแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีรายงานว่าพบเห็นแรงงานต่างด้าวเข้าไปดื่มสุราสังสรรค์กันในร้านอาหารโดยไม่ให้ความร่วมมือในการรักษามาตรฐานทางสาธารณสุข เกรงว่าจะเกิดการระบาดของโรค และอาจเป็นบุคคลหลบหนีเข้าเมืองมาโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19ที่อาจแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ทั้งนี้ มีการออกตรวจคัดกรองบุคคลในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ตรวจวัดอุณหภูมิ และตรวจเอกสารการเข้าเมือง ตลอดทั้งใบอนุญาตทำงาน พร้อมทั้งพบปะอธิบายการดำเนินชีวิตประจำวันที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการระวังป้องกันรักษาสุขภาพด้วยโดยในจุดแรกสวนส้ม หมู่ที่ 6 บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ที่มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ทำงานภาคการเกษตร 41 คน ซึ่งทุกคนมีหลักฐานประจำตัว ใบอนุญาตทำงาน และเอกสารเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายครบทุกคน

ด้าน อ.เชียงแสน พ.อ.พักตร์พงศ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย เป็นประธานปล่อยชุดออกปฏิบัติภารกิจ พร้อมกับนายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน พร้อมชุดกำลัง มีเป้าหมายออกตรวจสถานประกอบการและสถานที่ทำงานของแรงงานต่างด้าว ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด มิตรอารีย์ วัสดุก่อสร้าง และบริษัทคิง เดคคอเรชั่น จำกัด ผลการปฏิบัติได้ประชุมทำความเข้าใจแก่แรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การปฏิบัติตนเพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรค และการดำเนินชีวิตที่ดีและไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและสุขอนามัย ซึ่งแรงงานให้ความร่วมมือดี

ที่ อ.เชียงของ พ.ต.อ. มานพ เสนากุล รองผบก.ภ.จว.เชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยชุดเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกว่า 40 นาย โดยกำหนดจุดเป้าหมายเข้าตรวจที่บริษัท เชียงรายพืชผล จำกัด มีแรงงานต่างด้าวทำงานโดยถูกกฎหมาย 21 คน และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญยวงพืชผล มีแรงงานต่างด้าวทำงานโดยถูกกฎหมาย 4 คน ผลการปฏิบัติได้ประชุมทำความเข้าใจแก่แรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การปฏิบัติตนเพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรค และการดำเนินชีวิตที่ดีและไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและสุขอนามัย และการรับจ้างแรงงานภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งแรงงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี