'บิ๊กตู่'ตรวจ'น้ำท่วมนครศรีฯ'ยันมีงบฯช่วยปชช.ลั่น'นายกฯ'เต็มที่อยู่จนทำเสร็จ

เมื่อเวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ตำบลปากพูน อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์ มอบนโยบาย

และตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย โดยเมื่อเดินทางถึง นายกฯ ได้ฟังสรุปสถานการณ์จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องตากกรมชลประทาน ภายในห้องรับรองสนามบิน

ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางต่อไปศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่จ.นครศรีธรรมราช ด้วยรถรถยนต์ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) สีส้ม เลขทะเบียน 1 นข 2934 กรุงเทพมหานคร เพื่อพบปะผู้ประสบอุทกภัยและมอบเครื่องอุปโภค บริโภค  โดยมีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ให้การต้อนรับ และร่วมคณะลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ นายรงค์ บุญสวยขวัญ , นายสายัณห์ ยุติธรรม นายสัณหพจน์ สุขศรีเมืองส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ นายเทพไท เสนพงษ์ , นายชัยชนะ เดชเดโชส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์

โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้มานครศรีธรรมราช ดีใจจังฮู้ อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเบื้องต้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานถุงยังชีพจำนวน 10,000 ถุง และยังทรงรับสั่งว่าหากไม่เพียงพอก็พร้อมมอบให้อีก นี่คือสถาบันพระมหากษัตริย์ พระองค์ท่านทรงทำหลายอย่างและทรงพระราชทานความช่วยเหลือ

นายกฯ กล่าวว่า ตนขับเคลื่อนหรือทำคนเดียวไม่ได้ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือก็จบ นั่นคือกฎหมายและรัฐธรรมนูญ วันนี้หลายอย่างเริ่มดีขึ้น เศรษฐกิจในพื้นที่หลายโครงกาารผลตอบรับดี เช่นโครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ดีใจหลายคนมากราบไหว้ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ และสักการะวัดพระบรมธาตุ การท่องเที่ยววันนี้ถ้าไม่มีไอ้ไข่ก็ลำบาก ทั้งนี้ ตนเดินทางมาเห็นรอยยิ้มประชาชนตนก็ชื่นใจแล้ว ซึ่งการอพยพประชาขนเราทำไปแล้ว 41 จุด 2,000 คน ขณะนี้กลับไปหมดแล้ว ตนก็ดีใจ แต่ก็กังวลเพราะกลับไปอยู่ในพื้นที่ที่น้ำยังท่วมอยู่ บ้านหลายหลังยังอยู่ในน้ำ ปัญหาของเราคือความคุ้นชินกับการดำรงชีวิต บ้านเราสร้างมานานแล้ว มันย่อมอยู่ต่ำกว่าถนน จะแก้ปัญหาอย่างไรในระยะยาว ถ้าถนนสร้างมาต่ำ น้ำก็จะท่วมไปกับบ้านด้วย ก็ใช้สัญจรไปมาไม่ได้ นอกจากนั้น จะทำอย่างไรให้น้ำออกเร็วที่สุด ตนคิดว่าทำได้ อย่างไรก็ตาม เราต้องเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ถ้าไม่มียุทธศาสตร์ชาติก็ไม่ถึงที่หมาย ไม่ได้เผด็จการอะไร

จากนั้น นายกฯ ได้ถามชาวบ้านว่า "จะช่วยกันไหม ตอบผมหน่อยสิ ในการทำโครงการ เดี๋ยวผู้ว่าฯ จะไปรับฟังความคิดเห็นกันอีกที คนในพื้นที่ต้องเป็นหลัก เป็นคนรู้ปัญหา ก็ต้องรับฟังหลักการและเหตุผลของทางราชการ ก็ไปได้  ไม่มีคนได้ ก็ไม่มีคนเสีย มีคนเสีย มันก็มีคนได้ นั่นคือหลักการชัดๆ"

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ แนวทางเร่งแก้ไขปัญหาคือ การเร่งโครงการพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำคลองระบายน้ำ มีโครงการขยายบานประตูระบายน้ำ ตั้งสถานีสูบน้ำ ทำแก้มลิง เป็นต้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือตามระเบียบราชการ จะเร่งรัดแจกจ่ายงบประมาณให้เร็วขึ้น ยืนยันว่ามีอยู่แล้ว และยังมีเงินบริจาค ขออย่างเดียวความเข้าใจเท่านั้น วันนี้มีส.ส.มา 5 คน จาก พรรคพลังประชารัฐ และ ประชาธิปัตย์ ไม่ว่าใครพรรคอะไรก็เหมือนกัน วันนี้ต้องร่วมมือกัน ซึ่งนายกฯ ทำงานไม่เคยบ่นไม่เคยเหนื่อยตราบใดที่ทำก็ต้องทำ อยู่จนทำให้เสร็จในเมื่ออยู่ก็ทำให้เต็มที่ วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวอีกว่า เป็นห่วงการระบาดของโรวิด-19 ประมาทไม่ได้จนกว่าจะมีวัคซีน คาดว่ากลางปีหน้า วันนี้ขอเตือนคนที่ข้ามไปมาตามแนวชายแดนที่ไม่ผ่านช่องทางปกติ ตนได้สั่งเพิ่มใช้โดรนตรวจการ จับได้ถึงบ้าน ลักลอบไม่ได้ ยืนยันว่าสถานการณ์วันนี้ยังไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์ เพราะยังรู้รู้ตัวคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดประเทศชาติของเราอยู่ด้วย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทุกพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ คนไทยต้องสำนึกตรงนี้

ซึ่งในช่วงท้าย นายกฯ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจทุกคน พร้อมนำประชาชนตะโกนว่า สู้ไม่สู้เหนื่อยไม่เหนื่อย รักไหม ไม่รักฉันไม่เป็นไร ฉันรักเธอ ไม่ได้มาหาเสียง ใครไม่รักผมไม่เป็นไรผมยิ่งต้องรักท่าน เราเกลียดชังกันไม่ได้เพราะเป็นคนไทย คนไทย ต้องรักชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และเคารพกฎหมายเท่านั้นเอง รัฐบาลจะได้ทำงานได้

จากนั้น นายกฯ ได้ไปเยี่ยมชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากกระดูกทับเส้น