เพนโฟลด์ แกรนจ์ 1951 ไวน์แพงของออสเตรเลีย

ในส่วนของไวน์มีดังนี้  ไวน์บอร์กโดซ์ เช่น ชาโต มาร์โกซ์ (Chateau Margaux) วินเทจ 1983 และ 2005, ชาโต มูตง ร็อธชิลด์ (Chateau Mouton Rothschild) 1986, ชาโต ลาฟิท ร็อธชิลด์ (Chateau Lafite Rothschild) 2000 และ 2005, ชาโต ลาเฟลอร์ (Chateau Lafleur 1982) พร้อมกล่องไม้ มีทั้งขวดธรรมดาและแม็กนั่ม

ขณะที่เบอร์กันดีล้วนแต่ดัง ๆ ทั้งสิ้น Henri Jayer,  Vosne-Romanée Cros Parantoux และ Echézeaux 1990 / Domaine Leroy Clos de Vougeot  และ Richebourg 2000 /  DRCs จาก 1990 – 2000 / Armand Rousseau จากวินเทจ  2010 ประกอบด้วย  Chambertin, Chambertin Clos de Bèze, Ruchottes Chambertin Clos des Ruchottes  และ Gevrey Chambertin Clos St. Jacques , Roumier’s Chambolle Musigny Les Cras, Les Amoureuses และ Bonnes Mares

 

 Chateau Margaux 1983

ไวน์หวานเป็นคอลเลคชั่นของ 2 เจ้าดังคือ  Egon Müller Scharzhofberger Auslese และ JJ Prüm Wehlener Sonnenuhr Auslese Goldkapsel

ส่วนคนรักวิสกี้ก็มีมากมาย ไฮไลท์อยู่ที่ Karuizawa 40 Year Old Blue & Gold Geisha,  Aqua of Life 45 Year Old, Honor Sumo Triple Set, Samurai 30 Year Old series, Juyondai,Ryusen และ Hakuunkyorai รวมทั้ง Glenfiddich 50 Year Old

  Domaine Leroy clos de Vougeot 2000

ที่ได้รับการจับตามากที่สุดคือ เพนโฟลด์ แกรนจ์ (Penfolds Grange) หลายวินเทจ หลายคอลเลคชั่น โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ เพนโฟลด์ แกรนจ์1951 ซึ่งเป็นวินเทจแรกของ Grange ผลิตออกมาแต่ไม่ได้ออกวางขายในท้องตลาด มาวางขายวินเทจ 1952 เป็นวินเทจแรก  นับเป็นหนึ่งในตำนานไวน์ออสเตรเลีย ซึ่งคาดกันว่าปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 20 ขวดเท่านั้น

 

ขณะที่ Penfolds Grange 1951 นั้นทำสถิติประมูลในรายการต่าง ๆ ราคาสูงมาโดยตลอด ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2020 ที่ สถาบันประมูลแลงตันส์ (Langton’s) สถาบันประมูลชื่อดังของออสเตรเลีย  ทำสถิติเป็นไวน์ออสเตรเลียที่ราคาแพงที่สุด ด้วยราคา 103,555 ดอลลาร์ออสเตรเลีย  หรือ 57,576 ปอนด์สเตอร์ลิง โดยชายชาวเมืองเมลเบิร์น ก่อนหน้านั้นเดือนธันวาคม 2017 Grange ทำสถิติประมูลที่ Langton’s  ในราคา 59,416 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากนั้นต้นปี 2018 ก็ทำสถิติเป็น 78,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย กระทั่งปลายปีเดียวกันก็ทำสถิติประมูลเป็น 80,386 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

 

วินเทจ 1955 เป็นวินเทจแรกที่ส่งเข้าชิงรางวัลซึ่งเริ่มในปี 1962 เป็นต้นมา หลังจากนั้นก็กวาดรางวัลอย่างมากมาย วินเทจ 1971 ได้รางวัลที่ 1 ประเภทชิราซในงาน Wine Olympics ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่วินเทจ 1990 ได้รับรางวัล “Wine of the Year 1995” โดยนิตยสารไวน์ สเปกเตเตอร์ (Wine Spectator) และวินเทจ 1998 ได้คะแนน 99/100 คะแนนจากนิตยสารฉบับเดียวกัน ส่วนในประเทศออสเตรเลีย Grange ก็อยู่ในอันดับแรกของเกรด Exceptional ของ Langton Classification สถาบันจัดอันดับไวน์ของออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญเป็นไวน์ตัวเดียวที่อยู่รายชื่อ heritage ของ South Australian National Trust เป็นต้น

  Max Shubert

Grange เกิดจากมันสมองและสองมือของ แม็กซ์ ชูเบิร์ต  (Max Schubert)  โดย Grange 1951 เป็นวินเทจแรกที่เริ่มทำการทดลอง แม็กซ์ ชูเบิร์ต ในฐานะไวน์เมกเกอร์คนแรกใช้ชิราซ (Shiraz) 100 % จาก 2 พื้นที่คือไร่แกรนท์ (Grange Vineyard) และไร่ฮันนีพอท (Honeypot Vineyard) ทั้ง 2 ไร่อยู่ที่มากริลล์ (Magill) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองแอดิเลด (Adelaide) เมืองหลวงของรัฐเซาธ์ออสเตรเลีย ประมาณ 8 กิโลเมตร ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกของเพนโฟลด์ มีทุกอย่างตั้งแต่กระบวนการผลิตไวน์ยุคแรกของเพนโฟลด์ จนถึงร้านอาหารระดับหรูหรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องแสดงการทำงานของแม็กซ์ ชูเบิร์ต ไวน์เมกเกอร์ผู้ยิ่งใหญ่

  Max Shubert ตรวจสอบไวน์

แม็กซ์ ชูเบิร์ต  (Max Schubert)  มีชื่อเต็มว่า Max Edmond Schubert ( 9 February 1915 - 6 March 1994)  เข้าร่วมงานกับ Penfolds เมื่อปี 1931 ในตำแหน่งพนักงานเดินเอกสารขณะที่อายุไม่ถึง 20 ปี แต่ด้วยความรักความก้าวหน้าจึงไปเรียนวิชาเคมีในตอนกลางคืน ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนักเคมีของ Penfolds  กระทั่งอายุ 25 ปีจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยไวน์เมกเกอร์ ก่อนจะได้เป็นหัวหน้าไวน์เมกเกอร์เต็มตัวในปี 1948 ขณะที่อายุเพียง 33 ปี

  Peter Gago หัวหน้าไวน์เมกเกอร์คนใหม่

เดิม Penfolds ถนัดแต่ผลิตฟอร์ติไฟด์ ไวน์ เช่น พอร์ต เชอร์รี และเหล้ากลั่น ตามสไตล์ของผู้อพยพยุคแรกที่เข้ามาอยู่ในออสเตรเลีย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นคุณภาพขององุ่นยังไม่มีศักยภาพเพียงพอในการผลิตไวน์ แต่หลังจากทุกอย่างพร้อมประกอบกับนโยบายและทิศทางเริ่มเปลี่ยน Max Schubert จึงถูกส่งตัวไปศึกษาดูการทำไวน์ที่ยุโรปในช่วงปี 1950 และได้เห็นความยิ่งใหญ่ของไวน์กรองด์ ครู (Grand Cru) ของฝรั่งเศส โดยเฉพาะกรองด์ ครู ชั้น 1 ฝังใจเขาตลอดเวลา และเป็นจุดกำเนิดของ Penfolds Grange

Penfolds Grange วินเทจ 1951 ใช้ Bin 1 เป็นชื่อรุ่นพร้อมคำว่า Grange Hermitage ซึ่งเป็นหนึ่งในเอโอซี (AOC) ของแคว้นโฮรน ประเทศฝรั่งเศส อันเป็นต้นกำเนิดขององุ่นซีราห์หรือชิราซ ที่ใช้ทำ Grange นั่นเอง โดยวินเทจ 1952 เป็นวินเทจแรกที่ขายในท้องตลาดใช้ Bin 4 หลังจากนั้นก็ใช้ Bin ต่าง ๆ กระทั่งวินเทจ 1964 จึงใช้ Bin 95 ขณะที่คำว่า Grange Hermitage ถูกตัดออกไปหลังวินเทจ 1989

 

  อาณาจักรเพนโฟลด์

ปัจจุบัน Grange จัดอยู่ในกลุ่ม Icon & Luxury Collection อยู่ในกลุ่มไวน์คุณภาพระดับสูงของ Penfolds กระบวนการผลิตสืบทอดปรัชญาการทำไวน์ อันเป็นมรดกตกทอดกันมายาวนาน ผ่านการคัดกรองด้วยมันสมองและประสบการณ์อันยาวนานของของไวน์เมกเกอร์ระดับปรมาจารย์ แต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งรสชาติและการเก็บรักษาที่ยาวนาน

 

ผมเคยชิม Penfolds Grange  1951 ครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมเยียนเพนโฟลด์เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เป็นขวดที่ผ่านการรีคอร์ค (Recork) มาแล้ว แต่ล่าสุดที่ได้ชิม Penfolds Grange  ที่เป็นแบบเดียวกับวินเทจ 1951 คือวินเทจ 2011 (Penfolds Grange  2011) นั่นคือทำจากชิราซ (Shiraz) 100 % ในจำนวนนี้ 80 % มาจากไร่ในบารอสซา แวลลีย์ (Barossa Valley) ที่เหลือมาจากไร่ในแม็คลาเรน วัล (McLaren Vale) และไร่ดั้งเดิมคือมากิลล์ อิสเทท (Magill Estate)

 

 Grange วินเทจต่าง ๆ

Grange  2011 เป็นวินเทจที่ 6 ที่ทำจากชิราซล้วน ๆ นับจาก 1951,1952, 1963,1999 และ 2000 ขณะที่วินเทจอื่น ๆ ที่เหลือมีส่วนผสมของกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) เล็กน้อย โดยวินเทจ 2011 นี้บ่ม 17 เดือนในถังโอ๊คใหม่อเมริกันขนาด 225 ลิตร (American oak hogsheads) 100 %

  Penfolds Grange 1951

สีแดงเข้มปึ้กมีกลิ่นหอมของผลไม้เปลือกดำสุก เช่น พลัม แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ฟิก ราสพ์เบอร์รี  พร้อมด้วยเฮิร์บ โดยเฉพาะชะเอมเทศโดดเด่นมาก สไปซี เปปเปอร์ มิเนอรัล น้ำมันดิน วานิลลากรุ่น ๆ ควันไฟ โอ๊คกรุ่น ๆ ฟูลบอดี้ แทนนินหนักแน่น แอสิดส่งเสริมกันดี จบยาวด้วยผลไม้สุก เฮิร์บ และวานิลลา ยังไม่เปิดเผยตัวเต็มที่นัก น่าจะอีก 2-3 ปี ใครมีในครอบครองสามารถเก็บได้ 15-20 ปี 

Penfolds Grange  1951 ณ วันนี้คือไวน์สะสมของบรรดาผู้เก็งกำไรทั้งหลาย ใครจะเป็นเจ้าของสถิติคนใหม่ ขณะเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ผลการประมูลยังไม่ออกมา ลุ้นกันต่อไป..!!