'ปชป.' หวังดันโครงการสามเหลี่ยมลุ่มน้ำภาคใต้บริหารจัดการน้ำ

'ปชป.' หวังดันโครงการสามเหลี่ยมลุ่มน้ำภาคใต้บริหารจัดการน้ำ

'ปชป.' หวังดันโครงการสามเหลี่ยมลุ่มน้ำภาคใต้ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนบริหารจัดการน้ำ

นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.สุราษฏรธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ(อนุกมธ.ฯ) ลุมน้ำภาคใต้ กล่าวถึงรายงานผลการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการที่ได้เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ลุ่มน้ำใต้มีด้วยกัน5 ลุ่มน้ำหลักๆจาก 25 ลุ่มน้ำของประเทศไทย ถือเป็นภูมิภาคที่สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมาก มีทะเลทั้งสองฝั่ง มีระบบนิเวศน์ชายฝั่ง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำตามธรรมชาติ มีการผลิตทางการเกษตร ทั้งยางพารา และปาล์มน้ำมัน มีการผลิตและแปรรูปมายาวนาน มีความได้เปรียบทางสภาพภูมิศาสตร์อย่างมาก การมุ่งเน้นการท่องเที่ยวให้สู่มาตรฐานสากลควบคู่ไปกับการเกษตร การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเช่ือมโยงในภาคส่วนต่างๆให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นเมืองตากอากาศ  รวมทั้งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการค้า การลงทุนกับภูมิภาคอื่น   ซึ่งจากการที่ได้มีการประชุม 22 ครั้ง และลงพื้นที่ศึกษาดูงานครอบคลุม14 จังหวัดใน5 ครั้ง อนุกมธ.ได้ข้อสรุปและข้อสังเกตต่างๆที่มีความสำคัญในการบริหารจัดการพัฒนาลุมน้ำภาคใต้ดังนี้

การจัดการแหล่งน้ำเพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่เกาะ และพื้นที่เกาะสำคัญ เช่น การจัดการหาน้ำเพิ่มบนเกาะภูเก็ต โครงการเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำ โครงการสูบน้ำ ผันน้ำจากบนฝั่งพังงา และสุราษฏรธานี ไปสู่ภูเก็ตเพื่อการอุปโภค บริโภค และผลิตน้ำประปา เพื่อจัดกับรายได้จากการท่องเที่ยว การจัดหาแหล่งน้ำในอ.เกาะลันตา กระบี่ ที่ประชาชนยังไม่รู้จักน้ำประปา และการจัดหาแหล่งน้ำที่กรมชลประทานไปจัดหาเดิมก็มีขนาดเล็กไม่เพียงพอต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจการท่องเที่ยว  ซึ่งก็มีการส่งเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานไปสำรวจแหล่งน้ำเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำและพัฒนาแหล่งน้ำเก่า เช่นแหล่งน้ำหัวแหลมกลาง อ่างเก็บน้ำคลองโขง เพื่อรองรับในอ.เกาะลันตา รวมถึงเกาะพีพีที่มีการศึกษาถึงการผลิตน้ำเค็มเป็นน้ำจืดด้วยระบบอาร์โอ และวางขยายระบบน้ำอุปโภค บริโภคในพื้นที่ที่สำคัญทางการท่องเที่ยวเช่นหาดไร่เลย์  

ส่วนในสุราษฏรธานี เช่น เกาะเต่า เกาะพงัน เกาะสมุย จะมีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กที่สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว รวมถึงพัฒนาอ่างเก้บน้ำต่างๆบนเกาะนั้นๆด้วย  และการนำน้ำจากเขื่อนรัชชประภามาใช้ในเหกาะสมุย จว.พังงา ที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ทั้งที่มีน้ำธรรมชาติพอเพียงที่จะพัฒนาเป็นน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตรได้ทั้งเกาะ แต่ก็พยายามที่จะสร้างฝายเพื่อชะลอน้ำ และการศึกษาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เป็นการเชื่อมต่อเพื่อการฟื้นฟูและของบประมาณจากทางสภาด้วย

นายสาคร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้ศึกษากลุ่มลุ่มน้ำปากพนังที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรธรรมชาติ กรมชลประทาน และการประปาส่วนภูมิภาค ที่มีอ่างเก็บน้ำสำรอง  และคลองชะอวด ซึ่งเป็นคลองสาขาของลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือนกรณีที่มีน้ำหลาก และลดผลกระทบในปัญหาน้ำท่วม มีการเร่งรัดจัดการอ้างเก็บน้ำห้วยน้ำใสในอ.ชะอวดที่จะเพิ่มศักยภาพและให้ประชาชนมีส่วนร่วม  รวมถึงการแก้ปัญหาป่าพุควนเค็ง ที่มีปัญหาไฟไหม้ทุกปี โดยต้องรักษาระดับน้ำในป่าพุให้มีระดับเหมาะสมด้วยการก่อสร้างคันดิน และปรับปรุงผังต่างๆเพื่อช่วยเหลือไปยังลุ่มน้ำใกล้เคียงด้วยนอกจากนี้ยังมีลุ่มน้ำพื้นที่ชายแดนใต้คือลุ่มน้ำปัตตานี ลุ่มน้ำทะเลสาปสงขลา ทางอนุกมธ.มีการลงไปดูการใช้นำ้ของประชาชน เช่นความต้องการใช้น้ำจืดของภาคการเกษตร การใช้น้ำกร่อยของภาคการประมงในคาบสมุทรสทิ้งพระ ที่มีน้ำไหลท่วมในหน้าฝนและแห้งแล้งอย่างรุนแรงในฤดูแล้ง คงต้องใช้การบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้เรายังไม่มีการบริหารจัดการที่สมบูรณ์ ทำให้มีปัญหาน้ำท่วมภาคใต้อย่างรวดเร็ว และเกิดต่อเนื่องมาทุกปี 

“สำหรับลุ่มน้ำพื้นที่ชายแดนภาคใต้ประกอบด้วย 3จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส  มีหลายโครงการที่สามารถพัฒนาให้เป็น”สามเหลี่ยมมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน” โดยมีการเร่งรัดจากหลายหน่วยงานและท้องถิ่นในจังหวัดภาคใต้เพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำสายบุรีที่ยังสามารถพัฒนาได้ ซึ่งต้องการให้มีการยกเลิกมติครม.เพื่อให้มีการพัฒนาในแม่น้ำสายนี้ได้ การบริหารจัดการน้ำในป่าพุโต๊ะแดงที่มีปัญาหาลักษณะเดียวกัน เรื่องการกั้นแนวเขตที่ชัดเจนเพื่ออนุรักษ์ให้เป็นป่าพุต้นแบบและใช้ร่วมกันได้ในหลายชุมชน โดยแต่ละป่ารวมแล้วมีพื้นที่นับหมื่นไร่ และสร้างระบบนิเวศน์อย่างดีให้กับพื้นที่ และยังมีการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล   ส่วนด้านสิ่งแวดล้อมโดยหน่วยรับผิดชอบหลัก ทั้งกรมทรัพยากรฯ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ กรมชลประทาน สำนักงานนโยบายและแผน ขอให้มีการปรับปรุงขั้นตอน วิธีการแผนการเสนอรายละเอียดของการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้มีการกระชับขึ้น ปรับปรุงวิธีการลดขั้นตอนการอนุญาตให้เข้าไปพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆในเขตอุทยาน เขตป่าไม้ต่างๆ  การขอใช้พื้นที่ในระยะเวลาที่พอสมควรในการพัฒนา ไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนได้รวดเร็วและเป็นจริง” ประธานอนุกมธ.ฯ กล่าว

นายสาคร กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้ อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปบริหารจัดการของแหล่งน้ำต่างๆ การจัดแหล่งสำรองน้ำของตนเอง  การจัดแหล่งน้ำต้นทุนไปใช้ ซึ่งภาคใต้จะมีปัญหาน้ำแล้งเพียงช่วงไม่กี่เดือน ต้องวิเคราะห์ในการใช้นำ้และสร้างความสมดุลย์ในการจัดสรรน้ำ โดยชุมชน การเติมน้ำใต้ดิน การจัดหาน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนในเขตที่ขาดแคลนน้ำอย่างจริงจัง รวมถึงขุดลอกร่องนำ้ปากแม่น้ำ เพื่อการประมง การท่องเที่ยว เช่นปากแม่น้ำปัตตานี ปากแม่น้ำกระบี่ ร่องนำ้คลองสนอ่าวนางโครงการขุดคลองผันนำ้เลี่ยงเมือง ป้องกันนำ้ท่วมชุมชนเมืองในทุกจังหวัดของภาคใต้ ตลอดจนเสนอให้มีโครงการ 1ตำบล1 แก้มลิง ในลุ่มน้ำภาคใต้ด้วย