'สามมิตร'คิดหนัก ไปต่อ-พอแค่นี้!?
ความเคลื่อนไหวภายใน "พรรคพลังประชารัฐ" ที่ดูเหมือนนิ่งสงบ อาจกำลังรอเวลาขยับครั้งสำคัญ เมื่อมีกระแสข่าวหนาหูว่า เลือกตั้งครั้งหน้า บางกลุ่มบางก๊วน เตรียมเก็บข้าวของ ออกไปหารังใหม่เป็นที่เรียบร้อย
ควันหลงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 1 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ทุกอย่างดูจะเป็นปกติ แต่หากจับสังเกตสีหน้าสีตาของรัฐมนตรีอุตสาหกรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” หลังเสร็จสิ้นการประชุมต้องบอกว่า ไม่ค่อยสู้ดี ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
เป็นไปได้ว่าการประชุม ครม. วันนั้น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ข้อสังเกตถึง “โครงการรถเก่าแลกรถใหม่” ที่เสนอเข้าที่ประชุม ว่า อยากให้ไปพิจารณาข้อดี ข้อเสีย ให้รอบด้าน เพราะห่วงว่าจะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์เพี้ยนไป หากดูแลเฉพาะรถยนต์รถไฟฟ้า รถยนต์ธรรมดาจะทำอย่างไร
เพราะต้องไม่ลืมว่า ในช่วงนี้มีมหกรรมรถยนต์ที่แต่ละค่ายต่างหมายมั่นปั้นมือจะทำยอดขายให้ได้ตามเป้า แต่มีรายงานว่า เมื่อมีข่าวเรื่อง “รถเก่าแลกรถใหม่” เข้ามา จึงทำให้หลายคนที่ตั้งใจจะซื้อรถใหม่ ต้องชะลอดูความชัดเจนของโครงการ จนมีการทิ้งใบจองกันจำนวนไม่น้อย
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ “สุริยะ” ถอนเรื่องนี้ออกไป เท่ากับว่าโครงการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของรัฐบาลที่เข้าข่ายโครงการ “ประชานิยม” ยังไม่คลอดในช่วงจังหวะนี้
ต่างจากสมัย “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ใช้นโยบายคืนภาษี “รถคันแรก” จนส่งผลให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนยักษ์ใหญ่ ของคนตระกูลดังที่มาเล่นการเมืองด้วยนั้น รายได้เติบโตสูงสุด ในปี2555 ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท มีการระบุตัวเลขการผลิตในประเทศถึงจำนวน 2.4 ล้านคัน
ทว่าในทางการเมืองมองได้ว่า ความไม่สมหวังเที่ยวนี้ของ “สุริยะ” อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาตัดสินใจจะร่วมงานการเมืองกับ “พล.อ.ประยุทธ์” และ “พลังประชารัฐ” ต่อหรือไม่อย่างไร เพราะ “สุริยะ” พลาดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าจากการร่วมรัฐบาล
ถ้ายังจำกันได้ "สุริยะ" เคยหวังจะนั่ง "รมว.พลังงาน" ตั้งแต่ช่วงฟอร์มรัฐบาลจนผ่านมาถึงการ "ปรับครม." รอบล่าสุด หลังกลุ่ม “4 กุมาร” ที่นำโดย “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ต้องพ้นจากตำแหน่ง มีการพูดกันหนาหูว่า ผู้ใหญ่ใน “พลังประชารัฐ” รับปาก “สุริยะ” อย่างดิบดีว่าจะยก “เก้าอี้พลังงาน” ให้เสียที แต่สุดท้าย ชื่อของ “สุริยะ” ก็ยังค้างเติ่งที่ “กระทรวงอุตฯ” ตามเดิม
ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวหนาหูเกิดขึ้นภายใน “พลังประชารัฐ” ว่า แกนนำกลุ่มสำคัญเตรียมจะเก็บข้าวของ ย้ายสำมะโนครัวไปหาบ้านใหม่ปักหลัก เมื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปมาถึง
หรือกลุ่มสำคัญที่ว่าจะคือ “กลุ่มสามมิตร” ที่นำโดย “สุริยะ” ซึ่งพลาดหวังครั้งแล้วครั้งเล่ากับการอยู่ร่วมชายคากับ “บิ๊ก ป.”
โดยในที่ประชุม ครม. วันนั้น ซึ่งเป็นวันก่อนที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะวินิจฉัยกรณี “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่บ้านหลวง “พล.อ.ประยุทธ์” ก็ได้พูดกลางวงประชุมแบบทีเล่นทีจริงว่า “พรุ่งนี้ใครจะอยู่กับผมบ้าง หรือใครจะทิ้งผมวันนี้ก็เอา”
ถือเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างถึง “นักการเมือง” ที่ร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะบางกลุ่มใน “พลังประชารัฐ” ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” อาจรู้ความคิดความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด และเมื่อผลตัดสินของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” คดี “บ้านหลวง” ออกมา 9 ต่อ 0 ว่า “บิ๊กตู่” ไม่ผิด
อาจทำให้บางกลุ่มใน “พลังประชารัฐ” ต้องทบทวนอนาคตตัวเองอีกครั้งหรือไม่ ว่าควรจะอยู่หรือไป หรือจะเลือกอยู่กับใคร