'สามมิตร'คิดหนัก ไปต่อ-พอแค่นี้!?

'สามมิตร'คิดหนัก ไปต่อ-พอแค่นี้!?

ความเคลื่อนไหวภายใน "พรรคพลังประชารัฐ" ที่ดูเหมือนนิ่งสงบ อาจกำลังรอเวลาขยับครั้งสำคัญ เมื่อมีกระแสข่าวหนาหูว่า เลือกตั้งครั้งหน้า บางกลุ่มบางก๊วน เตรียมเก็บข้าวของ ออกไปหารังใหม่เป็นที่เรียบร้อย

ควันหลงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 1 ..2563 ที่ผ่านมา ทุกอย่างดูจะเป็นปกติ แต่หากจับสังเกตสีหน้าสีตาของรัฐมนตรีอุตสาหกรรมสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจหลังเสร็จสิ้นการประชุมต้องบอกว่า ไม่ค่อยสู้ดี ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

เป็นไปได้ว่าการประชุม ครม. วันนั้นพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ข้อสังเกตถึงโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ที่เสนอเข้าที่ประชุม ว่า อยากให้ไปพิจารณาข้อดี ข้อเสีย ให้รอบด้าน เพราะห่วงว่าจะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์เพี้ยนไป หากดูแลเฉพาะรถยนต์รถไฟฟ้า รถยนต์ธรรมดาจะทำอย่างไร

เพราะต้องไม่ลืมว่า ในช่วงนี้มีมหกรรมรถยนต์ที่แต่ละค่ายต่างหมายมั่นปั้นมือจะทำยอดขายให้ได้ตามเป้า แต่มีรายงานว่า เมื่อมีข่าวเรื่องรถเก่าแลกรถใหม่เข้ามา จึงทำให้หลายคนที่ตั้งใจจะซื้อรถใหม่ ต้องชะลอดูความชัดเจนของโครงการ จนมีการทิ้งใบจองกันจำนวนไม่น้อย

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้สุริยะถอนเรื่องนี้ออกไป เท่ากับว่าโครงการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของรัฐบาลที่เข้าข่ายโครงการประชานิยมยังไม่คลอดในช่วงจังหวะนี้

ต่างจากสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่ใช้นโยบายคืนภาษีรถคันแรกจนส่งผลให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนยักษ์ใหญ่ ของคนตระกูลดังที่มาเล่นการเมืองด้วยนั้น รายได้เติบโตสูงสุด ในปี2555 ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท มีการระบุตัวเลขการผลิตในประเทศถึงจำนวน 2.4 ล้านคัน

ทว่าในทางการเมืองมองได้ว่า ความไม่สมหวังเที่ยวนี้ของสุริยะอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาตัดสินใจจะร่วมงานการเมืองกับพล..ประยุทธ์และพลังประชารัฐต่อหรือไม่อย่างไร เพราะสุริยะพลาดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าจากการร่วมรัฐบาล

ถ้ายังจำกันได้ "สุริยะ" เคยหวังจะนั่ง "รมว.พลังงาน" ตั้งแต่ช่วงฟอร์มรัฐบาลจนผ่านมาถึงการ "ปรับครม." รอบล่าสุด หลังกลุ่ม “4 กุมารที่นำโดยสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ต้องพ้นจากตำแหน่ง มีการพูดกันหนาหูว่า ผู้ใหญ่ในพลังประชารัฐรับปากสุริยะอย่างดิบดีว่าจะยก เก้าอี้พลังงานให้เสียที แต่สุดท้าย ชื่อของสุริยะก็ยังค้างเติ่งที่กระทรวงอุตฯตามเดิม

ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวหนาหูเกิดขึ้นภายในพลังประชารัฐว่า แกนนำกลุ่มสำคัญเตรียมจะเก็บข้าวของ ย้ายสำมะโนครัวไปหาบ้านใหม่ปักหลัก เมื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปมาถึง

หรือกลุ่มสำคัญที่ว่าจะคือกลุ่มสามมิตรที่นำโดยสุริยะซึ่งพลาดหวังครั้งแล้วครั้งเล่ากับการอยู่ร่วมชายคากับบิ๊ก .”

โดยในที่ประชุม ครม. วันนั้น ซึ่งเป็นวันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณี พล..ประยุทธ์อยู่บ้านหลวงพล..ประยุทธ์ก็ได้พูดกลางวงประชุมแบบทีเล่นทีจริงว่า พรุ่งนี้ใครจะอยู่กับผมบ้าง หรือใครจะทิ้งผมวันนี้ก็เอา

ถือเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างถึงนักการเมืองที่ร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะบางกลุ่มในพลังประชารัฐที่พล..ประยุทธ์อาจรู้ความคิดความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด และเมื่อผลตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญคดีบ้านหลวงออกมา 9 ต่อ 0 ว่าบิ๊กตู่ไม่ผิด

อาจทำให้บางกลุ่มในพลังประชารัฐต้องทบทวนอนาคตตัวเองอีกครั้งหรือไม่ ว่าควรจะอยู่หรือไป หรือจะเลือกอยู่กับใคร