‘สู้ยืดเยื้อ-ทลายเพดาน’ ยุทธศาสตร์ตอบโจทย์ม็อบ?

 ‘สู้ยืดเยื้อ-ทลายเพดาน’  ยุทธศาสตร์ตอบโจทย์ม็อบ?

ทุกสัญญาณกำลังเป็นบวกให้กับ 'ประยุทธ์' สวนทางกับ 'คณะราษฎร' ที่กำลังติดลบอย่างหนัก เกมที่เคยคิดว่จะปิดได้เร็วไม่อาจทำได้อีกต่อไป เหลือแต่เพียงยุทธศาสตร์ยื้อเพื่อเลี้ยงกระแสให้นานที่สุด

พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย9ต่อ0 เสียง ชี้ขาดว่า การพักอาศัยอยู่ในบ้านพักในค่ายทหาร ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มิได้เป็นการกระทำที่เข้าข่าย “รับเงินหรือประโยชน์อื่นใด” จากหน่วยงานราชการ 

อีกทั้งยังไม่มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามกำหนดในประมวลมาตรฐานจริยธรรม อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(4)และ (5)  อันเป็นเหตุความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4)        

ปฏิกริยาจากฟากฝั่ง “ม็อบราษฎร” ดูเหมือนว่า จะยิ่งทวีความเข้มข้นและการขยายเพดานที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

จาก “3ข้อเรียกร้อง” คือ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก , แก้รัฐธรรมนูญ, และปฏิรูปสถาบัน เวลานี้ลามไปถึงการ “ปฏิรูป3สถาบัน”

แม้ทางฝั่ง “แกนนำม็อบ3นิ้ว” ย้ำนักย้ำหนาว่า “ไม่มีทางลดเพดานเพราะเพดานได้พังลงไปแล้ว” แต่ดูเหมือนว่า เวลานี้ทุกข้อเสนอของม็อบยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการตอบรับ นอกเหนือจากพล.อ.ประยุทธ์  จะประกาศเสียงแข็งไม่ลาออกแล้ว เวลานี้ยังรอดคดีบ้านพักหลวงซึ่งเป็นเสมือนการเปิดทางให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ยาว

หรือในประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ที่มองในแง่ดีอาจมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง แต่หากจับสัญญาณจากกมธ.พิจารณา2ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่สภาฯให้ความเห็นชอบในวาระแรก ไปก่อนหน้านี้ดูแล้ว

แม้กระทั่งกมธ.ในซีกพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยเอง ยังบอกว่า “การแก้ไขหมวด1หมวด2  ในร่างของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่มีเรื่องนี้” 

ดังนั้น เมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูกเสนอมา มีเพียง2ร่างที่ผ่านชั้นรับหลักการ  และอยู่ระหว่างการพิจารณา ณ ขณะนี้ และทั้ง2ร่าง “ไม่แตะต้องหมวด1และหมวด2” ย่อมเป็นการส่งสัญญาณแล้วว่า โอกาสที่ข้อเสนอของม็อบในข้อที่3ในเรื่องการ “ปฏิรูปสถาบัน” จะเป็นไปได้แทบไม่มี

ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของทางฝั่งม็อบเอง เพราะบางทีการให้ยุทธ์ศาสตร์ “ต่อสู้ที่ยืดเยื้อ” ทลายเพดานไปเรื่อยไม่มีวันสิ้นสุด

ยิ่งในสภาวะที่ม็อบประสบปัญหาทั้งประเด็นความขัดแย้งความไม่ลงรอย ที่ล่าสุดเกิดขึ้นระหว่างการ์ดราษฎรด้วยกัน บวกกับคดีความต่างๆของบรรดาแกนนำโดยเฉพาะคดี112 ด้วยแล้ว ก็อาจทำให้ “เส้นชัย” ในการต่อสู้ครั้งนี้อาจต้องไกลออกไปเช่นเดียวกัน

เว้นเสียแต่ว่า ม็อบจะปรับยุทธ์ศาสตร์แนวใหม่ต่อ “สู้แตกหัก”ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

แม้แต่ แนวร่วมอย่าง “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ยังบอกว่า  “การชุมนุมยืดเยื้อ อาจจะไม่ใช่แค่หนทางเดียวที่จะนำไปสู่ชัยชนะ มิหนำซ้ำเขายังรู้จุดอ่อน และกำลังหาทางบดขยี้ทุกรูปแบบ

ดูแล้วศึกนี้คงลากกันยาวกว่าที่คิด