7 จังหวัดภาคใต้ยังมีน้ำท่วม เร่งช่วยผู้ประสบภัย
ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ภาคใต้ 7 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 63 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด 58 อำเภอ 240 ตำบล 1,480 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 67,070 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ตรัง และปัตตานี ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. – ปัจจุบัน (2 ธ.ค. 63 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย รวม 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 58 อำเภอ 240 ตำบล 1,480 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 67,070 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แยกเป็น
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 57 อำเภอ 235 ตำบล 1,440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66,939 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังใน 7 จังหวัด ได้แก่
- นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอลานสกา อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชะอวด อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอขนอม และอำเภอนาบอน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- พัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอป่าบอน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอบางแก้ว และอำเภอศรีบรรพต ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
- สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอจะนะ อำเภอสะเดา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอนาหม่อม อำเภอรัตภูมิ และอำเภอบางกล่ำ ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
- นราธิวาส ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอวิภาวดี และอำเภอท่าฉาง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- ตรัง น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง และอำเภอนาโยง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- ปัตตานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่อำเภอยะหริ่ง อำเภอทุ่งยางแดง และอำเภอมายอ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 1 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช รวม 3 อำเภอ 11 ตำบล 51 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 131 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่พร้อมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ รถบรรทุกติดตั้งเครน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถไฟฟ้าส่องสว่าง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป