สธ.ย้ำยังไปเที่ยวเชียงใหม่-เชียงรายได้ โควิด-19ระยะคุมได้

สธ.ย้ำยังไปเที่ยวเชียงใหม่-เชียงรายได้ โควิด-19ระยะคุมได้

สธ.เผย สถานการณ์ 2 จังหวัดเชียงใหม่-เชียงรายอยู่ระยะควบคุมได้  มาตรการสาธารณสุขปฏิบัติการได้ดี-ตรวจจับได้เร็ว ไม่จำเป็นต้องปิดสถานที่ต่างๆ  ประชาชนใช้ชีวิตปกติคงมาตรการป้องกันส่วนบุคคล คนไทยไปเที่ยวได้  ระบุมีรายงาน พบแม่ถ่ายทอดภูมิคุ้มกันสู่ลูก

      เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2563  ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  แถลงข่าวความคืบหน้าการติดโควิค- 19 ที่จ.เชียงใหม่และเชียงรายว่า  มีการรายงานตรวจพบผู้ติดโควิด-19 ในพื้นที่จ.เชียงรายเพิ่ม 1 ราย รวมตรวจพบในพื้นที่จ.เชียงใหม่ 1 ราย  และจ. เชียงราย 3 ราย เป็น 4 ราย  เป็นผู้ที่หลบหนีเข้ามาจากฝั่งเมียนมาทั้งหมด ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ ถ้ามีการลักลอบเข้ามาแล้วไม่ผ่านระบบกักตัว อาจจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อในประเทศได้ เพราะสถานการณ์ของโรคในประเทศต่างๆยังมีการระบาด   จึงขอย้ำให้ประชาชนคนไทยที่จะกลับเข้าประเทศให้เข้าตามระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย  อย่างไรก็ตาม 4 รายที่ตรวจพบติดเชื้อนี้ ระบบมีการตรวจจับได้อย่างรวดเร็วและควบคุมกลุ่มเสี่ยงสูงและเสียงต่ำได้อยู่ในระดับดีและผลที่ออกมาก็น่าจะให้ผลดีถือว่าเป็นระยะที่ยังควบคุมได้

0 อยู่ในระยะควบคุมได้
         ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงโรคโควิด-19 ใน 2 จังหวัดนี้อย่างไร นพ.เกียรภูมิ กล่าวว่า มาตรการด้านสาธารณสุขทั้ง 2 พื้นที่ยังปฏิบัติการได้ดี มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อและติดตามผู้สัมผัสได้ทั้งหมดตามแผนที่มีการเตรียมการไว้ อีกทั้ง ผลการตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสยังไม่พบใครที่ติดเชื้อต่อจากผู้ติดเชื้อที่ตรวจเจอก่อนหน้าซึ่งเป็นการ ในระยะต่อมา ฉะนั้นสถานการณ์ความเสี่ยงใน  2 จังหวัดอยู่ระดับควบคุมได้ น่าจะปลอดภัย และขอย้ำว่าจากไทม์ไลน์ที่รายงานไปนั้น มีเพียงบางพื้นที่ของจ.เชียงใหม่และเชียงรายเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อ เป็นบริเวณเล็กน้อย ไม่ได้ทั้งจังหวัด
       “ทั้ง 2 กรณี ระบบควบคุมโรคทำงานได้ดี  สถานการณ์ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้าระบบทำไม่ได้ เช่น ไม่รู้ไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ไม่สามารถติดตามคนที่เกี่ยวข้องหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ ก็น่ากังวล แต่ทั้ง 4 รายที่ติดเชื้อ ระบบดำเนินการได้ดี  ส่วนมาตรการทางสังคม สธ.แนะนำให้ว่าเพียงแต่ตื่นตัวในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวัง ไม่จำเป็นต้องปิดกิจการต่างๆ ยังดำเนินต่อไปได้ ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และคนที่จะไปท่องเที่ยวก็ไปได้ แต่ขอให้คงมาตรการป้องกันส่วนบุคคลไว้ในการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งหากเทียบกับสถานการณ์ช่วงที่ประเทศไทยมีการระบาดหนัก คนไทยร่วมมือกันปฏิบัติมาตรการป้องกันส่วนบุคคลก็สามารถจัดการได้ดี”นพ.เกียรติภูมิกล่าว
     0 ภูมิคุ้มกันถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก
     นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า มีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ด้วยว่า มี 1 รายพบว่า ทารกที่คลอดจากมารดาที่ตั้งครรภ์ ติดโควิด-19และหายป่วยแล้ว ได้รับการถ่ายทอดภูมิคุ้มกันโควิด-19จากแม่  ซึ่งโดยปกติการติดเชื้อจะสามารถถ่าสยทอดภูมิคุ้มกันจากมาราดาสู่ทารกได้ผ่านทางสายสะดือ  ทำให้ทารกมีภูมิ อย่างเช่น โรคหัด  ส่วนภูมิคุ้มกันที่ได้รับะจอยุ่นานแค่ไหนจะต้องมีการติดตามทารกต่อเนื่องต่อไป อย่างไรก็ตาม ภูมิคุ้มกันโรคหัดจะอยู่ในลูก 1-2 ปี และไข้เลือดออกก็อยู่ 1 ปี เป็นต้น