ภาพใหญ่ยังบวก วันนี้ระวังความผันผวนจากการปรับน้ำหนักลงทุนและหุ้นตาม MSCI

โดยดัชนี Global standard หุ้นเข้า DELTA, STGT /หุ้นออก IRPC, TMB/ เพิ่มน้ำหนัก AWC และลดน้ำหนัก PTT, CPALL, AOT, SCC, ADVANC, BDMS, PTTEP, INTUCH // ดัชนี Global Small Caps หุ้นเข้า BPP, ICHI, IRPC, JMART, M, RBF, TFG, TISCO, VGI / หุ้นออก STPI, THAI // ทั้งนี้เรามองตลาดตอบรับปัจจัยบวกจาก MSCI Rebalancing ไปพอสมควร ประกอบกับในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา มักจะเห็นความผันผวนในระดับสูงกว่าปกติ นักลงทุนจึงควรระวังแรงขายปรับพอร์ตและทำกำไรในช่วงสิ้นวันนี้ สำหรับผู้ที่มีสถานะการลงทุนในตราสารล่วงหน้าประเภทต่างๆ ควรเฝ้าระวังสถานะการลงทุนอย่างใกล้ชิด

ตลาดอาจจะกำลังมองเลยประชุมโอเปคไปยังประชุมเฟด กลุ่มโอเปคและพันธมิตรจะหารือเรื่องขยายเวลาปรับลดกำลงการผลิตที่จะสิ้นสุดปลายม.ค.63 ออกไปอีก 3-6 เดือน ซึ่งเรามองว่าราคาน้ำมันดิบและหุ้นพลังงานตอบรับเชิงบวกไปมากและเริ่มมีความเสี่ยงต่อแรงขายทำกำไร ไม่ว่าผลการประชุมจะออกมาในทิศทางไหน ขณะที่หากมองไปยังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ 17 ธ.ค. เราคาดหากไม่มีมาตรการใหม่ที่น่าตื่นเต้น มีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะปรับตัวลง ซึ่งอาจจะลบกับหุ้นในกลุ่มที่ปรับขึ้นมาแรงก่อนหน้าทั้งพลังงาน ธนาคาร แต่จะส่งผลบวกในเชิงจิตวิทยาต่อ หุ้นโรงไฟฟ้า, สื่อสาร, อสังหาริมทรัพย์, กองทุนโครงสร้างพื้นฐานและกองรีทส์ รวมถึงกลุ่มการเงิน เป็นต้น หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ EGCO, RATCH, ADVANC, INTUCH, SPALI, AP, CPNREIT, BTSGIF, SAWAD, MTC

SET50 ที่ผลตอบแทน YTD Laggard สุด 25 ลำดับ: BANPU, TCAP, TMB, EGCO, KTB, MINT, KBANK, TOP, DTAC, TRUE, SCB, AWC, IRPC, VGI, BBL, WHA, BH, PTTEP, IVL, GPSC, BTS, RATCH, LH, BDMS, TISCO, SAWAD

ภาพรวมกลยุทธ์ โมเมนตัมระยะกลางเป็นบวก แต่ช่วงสั้นมีโอกาสผันผวนจากราคาน้ำมันดิบ และการปรับน้ำหนัก MSCI (30 พ.ย.) การเก็งกำไรเน้นเลือกรายตัว โดยเฉพาะ Laggard และกลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนพัธบัตรลง ขณะที่ไม่ควรไล่ราคาพลังงานและธนาคารที่ช่วงสั้นอาจมีแรงทำกำไร// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร EGCO*, RATCH*, SHR*

แนวรับ 1,422 จุด / แนวต้าน : 1,450 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

แบงก์ชาติจีนอาจเข้าแทรกแซงระบบการเงินหลังพบการผิดนัดชำระหุ้นกู้จำนวนมาก - หลังบริษัทรัฐบาลจีนผผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้จำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สัดส่วนหนี้รัฐบาลจีนถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับตลาดตราสารหนี้ของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่มาก

อังกฤษเริ่มตรวจสอบวัคซีนโควิดก่อนนำมาใช้งานจริง – รัฐบาลอังกฤษเริ่มตรวจสอบวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท AstraZeneca ก่อนพิจารณาอนุญาตให้นำไปใช้งานได้จริง โดยอังกฤษมีข้อตกลงในการจัดซื้อวัคซีนทั้งหมดราว 355 ล้านโดส จาก 7 บริษัทผหู้ผลิตวัคซีนทั่วโลก ซึ่งคาดว่า 4 ล้านโดส จะสามารถใช้ได้จริงก่อนสิ้นปี 2020

อุตสาหกรรมอาหารของจีนส่งสัญญาณโตต่อเนื่อง –ในเดือน ต.ค. โดยยอดค้าปลีกอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 8.8% yoy ขณะที่ ยอดค้าปลีกเครื่องดื่มทะบาน 16.9% yoy ส่งผลให้กำไรบริษัทอาหารในช่วง 3 ไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 10.1% yoy

ยืนยันเปิดโครงการคนละครึ่งเฟส 2 – นายกฯ ยืนยันโครงการคนละครึ่งเปิดเฟส 2 แน่นอน หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาขน เนื่องจากสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้สิทธิได้อย่างเป็นรูปธรรม กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้อย่างชัดเจน

GUNKUL - ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าโซลาร์ Phong Dien II ในเวียดนาม ขนาด 50 MW มูลค่า 1.25 พันลบ.

BCPG – หุ้นเพิ่มทุนเริ่มซื้อขาย 1 ธ.ค.

ประเด็นติดตาม: 30 พ.ย. – Chinese PMI เดือน พ.ย., TH economic data/ 1 ธ.ค. – EU CPI เดือน พ.ย., 3 ธ.ค. – TH consumer confidence เดือน พ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)