HANA - ถือ

HANA - ถือ

แนวโน้มที่ดีได้ถูกรวมในประมาณการแล้ว

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

lmpact

ยอดขายมีแนวโน้มดีขึ้นใน 4Q63 แต่อัตรากำไรยังคงเป็นความท้าทาย...

ยอดคำสั่งซื้อเริ่มฟื้นตัวในปลาย 3Q63 หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown และมีแนวโน้มจะดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาสที่สี่ จากการลดลงของสต็อก smart phone (~29% ของยอดขายใน 3Q63) และยานยนต์ (~15% ของยอดขายใน 3Q63) เราประเมินว่ายอดขายใน 4Q63 จะอยู่ที่ประมาณ 160-165 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น ~ 5% QoQ หรือ ~1% YoY ทำให้ยอดขายในปี 2563 เป็นไปตามสมมติฐานของเราที่ 602 ล้านดอลลาร์ (ยอดขายใน 9M63 อยู่ที่ 445 ดอลลาร์) อย่างไรก็ตาม เรามองว่าอัตรากำไรจะยังถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น (อัตราแกเปลี่ยน QTD อยู่ที่ 30.8 บาท/US$) ดังนั้น อานิสงส์จากการประหยัดต่อขนาดที่เกิดจากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นจึงอาจจะถูกหักล้างไปบางส่วนด้วยอัตรากำไรที่ลดลง ทั้งนี้ เนื่องจากกำไรจากธุรกิจหลักในงวด 9M63 คิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา และเราใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้แบบอนุรักษ์นิยมที่ 13.9% (9M63 อยู่ที่ 14.2%) เราจึงเชื่อว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563 จึงน่าจะเป็นไปตามประมาณการของเราที่ 1.7 พันล้านบาท

...เช่นเดียวกับในปี 2564

ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์ของ KGI Taiwan เรื่อง "Low 3Q20 tech inventories will lead to sales growth" ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ระบุว่าสต็อก semiconductor โลก และสต็อก EMS โลก อยู่ในระดับต่ำทั้งคู่ใน 3Q63 (71 วัน และ 42 วัน ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าระดับปลอดภัย 0.3 S.D. และ 0.2 S.D. ตามลำดับ) แสดงว่าอุปสงค์และยอดขายมีแนวโน้มจะแข็งแกร่งในอีกสามถึงสี่ไตรมาสข้างหน้า ทีมวิจัยของเราในไต้หวันมองบวกกับกลุ่มธุรกิจ semiconductor, NB/gaming, Apple, และ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของผู้บริหาร HANA ที่คาดว่าการวางตลาด Apple 12 5G จะจุดประกายให้เกิด super replacement cycle ซึ่งจะยาวไปอีกสองปีข้างหน้า เราเชื่อว่าประมาณการกำไรของเราได้สะท้อนดังกล่าวไปแล้ว โดยเราใช้สมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายปี 2564 ที่ 14% YoY ในขณะที่ใช้สมมติฐาน GPM ที่ 13.2% และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.90 บาท/US$ เราประเมินว่า upside ของกำไรจะมาจาก margin ที่เพิ่มขึ้น

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 40.00 บาท อิงจาก PER เท่าเดิมที่ 18.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต +2.0 S.D.) เราคิดว่าแนวโน้มยอดขายที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้นที่เป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, วัตถุดิบขาดแคลน และเงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2563 ที่ 31.50 บาท/US$ และปี 2564-65 ที่ 30.90 บาท/US$)