รัฐเร่งโอนเงิน 'ประกันรายได้เกษตรกร' ให้แล้วเสร็จ 18 พ.ย.นี้

รัฐเร่งโอนเงิน 'ประกันรายได้เกษตรกร' ให้แล้วเสร็จ 18 พ.ย.นี้

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งประสาน "ธ.ก.ส." โอนเงิน "ประกันรายได้เกษตรกร" ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 พ.ย. 2563 หรืออย่างช้าภายในสัปดาห์นี้

อัพเดทล่าสุด.. โครงการ "ประกันรายได้เกษตรกร" พบว่าชาวนาบางคนอาจจะยังไม่ได้รับเงินชดเชย ใครที่ยังไม่ได้ต้องใจเย็นๆ ก่อนเพราะทางการกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน ประสานให้ "ธ.ก.ส." โอนเงินตรงสู่บัญชีของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (18 พ.ย. 2563)

มีข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ทางการกำลังเร่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการในโครงการ "ประกันรายได้เกษตรกร" ส่วนที่เหลืออย่างเร่งด่วน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "ธ.ก.ส." ได้โอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 ไปแล้วในรอบที่ 1 ณ วันที่ 16 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวกับโครงการฯ ดังกล่าว มีข้อควรรู้อื่นๆ ที่เกษตรกรต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

1. "ธ.ก.ส." โอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต2563/64 รอบที่ 1 (16 พ.ย.) จำนวน 786,380 ราย คิดเป็นเงิน 8,387 ล้านบาท

2. การโอนเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวฯ ในรอบที่ 1 ดังกล่าว เป็นกลุ่มเกษตรกรชาวนาที่ลงทะเบียนปลูกข้าวเพียงชนิดเดียว

3. สำหรับเกษตรกรผู้ที่ปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด "ธ.ก.ส." จะโอนเงินส่วนที่เหลือของรอบที่ 1 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 พ.ย.2563 หรืออย่างช้าภายในสัปดาห์นี้

160568091715

4. มีเกษตรกร 161 ราย ที่มีปัญหาทางบัญชีธนาคาร เช่น บัญชีเงินฝากปิดไปแล้ว, บัญชีถูกอายัด ซึ่ง ธ.ก.ส. จะได้เร่งแก้ไขเพื่อโอนเงินส่วนต่างให้เสร็จสิ้นทุกรายโดยเร็ว

5. กรณีที่พบว่ามีการโอนเงินเกินหรือขาดบางส่วนนั้น ธ.ก.ส. แจ้งว่าเป็นปัญหาทางเทคนิค ซึ่งจะดำเนินการแก้ไขจ่ายเงินส่วนที่ขาดให้เรียบร้อยต่อไป 

6. สำหรับจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว รอบที่ 1 ซึ่งขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ มีจำนวน 839,682 ราย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ส่งข้อมูลให้กับ ธกส. เพื่อดำเนินโอนเงินส่วนต่างให้ครบทุกรายตามกำหนด

7. การโอนเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ปีที่ 2 รอบที่ 1 ดังกล่าว จัดทำเพื่อชดเชยส่วนต่างตามโครงการฯ ในเรื่องความชื้นของข้าวเปลือกแต่ละชนิด ไม่เกิน 15%

160568091412

8. โดยการชดเชยส่วนต่างราคาประกันข้าวเปลือกแต่ละชนิด มีรายละเอียดดังนี้

- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 2,911.17 บาท

- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,137.45 บาท

- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,222.36 บาท

- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,066.96 บาท

- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,084.34 บาท

9. จะมีการประกาศราคาอ้างอิงทุกๆ 7 วัน จนถึงวันสิ้นสุดโครงการฯ (ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - พฤษภาคม 2564)

160567599646

10. เกษตรกรผู้ปลูกข้าวแต่ละชนิด จะได้รับเงินส่วนต่างในจำนวนที่แตกต่างกันไป ดังนี้

- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 26,674 บาท/ครัวเรือน

- ข้าวเหนียว ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 33,349 บาท/ครัวเรือน

- ข้าวเปลือกเจ้า ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 36,670 บาท/ครัวเรือน

- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 34,199 บาท/ครัวเรือน

- ข้าวหอมมะลิ ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 40,756 บาท/ครัวเรือน