เปิดสูตร 'จุรินทร์' ดึง 7 ฝ่ายร่วม 'คกก.สมานฉันท์'

เปิดสูตร 'จุรินทร์' ดึง 7 ฝ่ายร่วม 'คกก.สมานฉันท์'

“จุรินทร์” ร้องทุกฝ่ายร่วมวง คกก.สมานฉันท์ ย้ำใช้หลักฉันทามติเป็นเอกฉันท์ ไม่ใช่เสียงข้างมาก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญที่จะมีการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมวันที่ 17-18 ..ว่า พรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนแล้วว่า สนับสนุนร่างของพรรคร่วมรัฐบาล และร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แล้วก็มีความเห็นว่า ไม่ควรจะมีอุปสรรคอะไรจะมาทำให้การพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุดต่อไป ส่วนการที่มีผู้ให้ความเห็นว่าควรจะมีการทำประชามติหรือไม่นั้น รัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 นั้น การทำประชามติจะต้องไปทำหลังจากผ่านที่ประชุมร่วมวาระที่ 3 แล้ว ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าจะทำก็ต้องไปทำตรงนั้น จะมาทำก่อนด้วยหลังด้วยจะกลายเป็นถูกข้อหาว่าถ่วงเวลาแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่จำเป็น จึงเราต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเมื่อผ่านวาระ 3 ก็ไปทำประชามติน่าจะเป็นที่ยุติได้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกับร่างของฝ่ายค้าน และอีก 2-3 ร่างนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยได้มีการยื่นเรื่องให้ประธานรัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 หรือมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องระบุไว้ชัดอยู่แล้วว่า การตรวจสอบสามารถทำได้ แต่ให้ไปทำหลังจากผ่านวาระ 3 และก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เช่นกัน มีขั้นตอนกระบวนการเวลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องมาทำขณะนั้ แต่ถือเป็นสิทธิ์ถ้าหากว่าใครจะยื่นไป แต่ก็อาจจะทำให้โดนข้อหาว่าตั้งใจจะถ่วงเวลาแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ได้เช่นกัน

นายจุรินทร์ กล่าว่า ส่วนประเด็นคณะกรรมการสมานฉันท์ ขณะนี้อย่างน้อยที่สุด พรรคประชาธิปัตย์ต้องการเห็นคณะกรรมการสมานฉันท์เกิดขึ้น เพราะเห็นว่าเป็นทางออกทางหนึ่งของประเทศที่เป็นรูปธรรมที่สุดเท่า และจะมีส่วนช่วยที่จะทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่ารัฐสภายังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ไม่จำเป็นต้องหันไปหาระบบอื่น จึงเป็นที่มาที่ได้ขอให้สถาบันพระปกเกล้าไปคิดรูปแบบว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ควรมีรูปแบบอย่างไร ปรากฏว่าขณะที่ได้คำตอบกลับมาแล้วว่า สถาบันพระปกเกล้าเสนอมา 2 รูปแบบดังนี้ 1.รูปแบบของคณะกรรมการ 7 ฝ่ายเหมือนที่ตนและพรรคประชาธิปัตย์เสนอ เกือบจะเรียกได้ว่าเหมือนกันทุกประการ เพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้น หรือแก้ปัญหาเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน 2.รูปแบบให้มีตัวแทนของฝ่ายต่างๆ ไปเป็นคณะกรรมการ ซึ่งคงจะประกอบด้วยคนนอก 1-2-3-4-5-6 ส่วนตัวบุคคลจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องอนาคต เพื่อหาทางออกให้กับประเทศในระยะกลางระยะยาว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการสมานฉันท์ 7 ฝ่ายมีบางฝ่ายมีความเห็นคล้ายๆ กับว่าไม่ประสงค์จะเข้าร่วมเพราะเกรงว่าจะเป็นเสียงข้างน้อยในคณะกรรมการชุดนั้น หรือมีบางฝ่ายมีเสียงมากกว่านั้น ไม่อยากให้กังวลและอยากให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม เพราะว่าคณะกรรมการชุดนี้โดยเจตนารมณ์ที่ตนเสนอนั้น ไม่ใช่การลงมติในแต่ละประเด็นแล้วใช้เสียงข้างมากบังคับเสียงข้างน้อยให้ยอมตาม แต่เจตนารมณ์ต้องการให้ทั้ง 7 ฝ่าย หรือ 8 ฝ่าย ไปแสวงหาความเห็นพ้อง คำว่าเห็นพ้องแปลว่าไปแสวงหาความเห็นที่เป็นเอกฉันท์ หรือที่เรียกว่าฉันทามติ ถ้ามี 7 ฝ่าย ก็แปลว่าต้อง 7:0 ไม่ใช่ 6:1 ไม่ใช่ 5:2 หรือ 4:3 ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำ เพราะถือว่าไม่เห็นพ้อง ไม่เป็นฉันทามติหรือเอกฉันท์

"ถ้าเป็นเช่นนี้ตนคิดว่าจะมีเสียงข้างมากข้างน้อยไม่สำคัญขอให้เห็นตรงกัน เห็นพ้องกัน ประเด็นนั้นก็จะได้รับการพิจารณา แล้วถ้าประเด็นใดเห็นพ้องกันแล้ว มีฉันทามติร่วมกันแล้ว 7:0 แล้ว ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติ เช่นสมมติว่าถกกันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเห็นตรงกันแล้ว 7:0 ว่าจะต้องไปแก้ ห้ามโยกโย้ ควรจะดำเนินการโดยเร็วอย่างไร อันนี้ถ้าเห็นตรงกันก็ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการให้เป็นไปตามนั้นได้ อะไรที่ถ้ายังเห็นไม่ตรงกันก็จับเข่าคุยกันต่อไป อาจจะมีความเห็นตรงกันเพิ่มเติมมาอีกก็ได้ หรืออะไรที่สุดท้ายแล้วไม่ตรงกันจริงๆ ก็อาจจะขึ้นบัญชียกยอดไปให้คณะกรรมการชุดที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระยะกลางระยะยาวได้พิจารณาต่อไปอีกก็ได้"นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ยืนยันว่า ทั้งหมดนี้คิดว่าเป็นแนวคิดที่ได้คิดร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ครบวงจรแล้วพอสมควร และเข้าใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ จึงไม่อยากให้กังวลว่าไม่อยากเข้าร่วม เพราะกลัวว่าจะใช้เสียงเสียงข้างมากมาบังคับ คงไม่เกิดสิ่งนั้นสำหรับแนวคิดที่ตนเสนอ