บอร์ดแข่งขันฯ เสียงแตก อนุมัติ CP ควบรวม Tesco

บอร์ดแข่งขันฯ เสียงแตก อนุมัติ CP ควบรวม Tesco

บอร์ดแข่งขันทางการค้า 7 คน เสียงแตกโหวตเห็นชอบดีลซีพีควบรวมโลตัสไม่เป็นเอกฉันท์ เสียงข้างน้อยหวั่นผลกระทบเศรษฐกิจ

การพิจารณาคำขอควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้น จำกัดและบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ใช้เวลารวม 3 เดือนเศษ โดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ลงมติอนุญาตให้ควบรวมกิจการเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563

นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า โดยกรรมการเสียงข้างมากมีความเห็นว่าการรวมธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ขออนุญาตรวมธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาดในตลาดร้านค้าปลีกสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทร้านค้าปลีกขนาดเล็ก จะมีอำนาจตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เป็นการผูกขาด

และการรวมธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้นและอาจส่งผลให้การแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง

รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม ทั้งนี้ มีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อลดหรือเยียวยาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการแข่งขันในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภคภายหลังการรวมธุรกิจ

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า การประชุมได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวางในประเด็นการอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ควบรวมกิจการ โดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ามี 7 คน แบ่งความเห็นออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 

1.กรรมการที่เห็นว่าไม่ควรอนุญาตให้ควบรวมกิจการ ได้ยกประเด็นผลกระทบจากการควบรวมกิจการต่อเศรษฐกิจ เพราะการควบรวมอาจกระทบกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง

2.กรรมการที่เห็นว่าควรให้ควบรวมกิจการ ได้ยกประเด็นการเข้ามากำกับดูแลอำนาจเหนือตลาดเพื่อไม่ให้ผู้ควบรวมและผู้ถูกควบรวมใช้อำนาจเหนือตลาดเพื่อสร้างการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่จะทำให้ทั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสมาอยู่ภายใต้การบริหารของเครือซีพี

“การประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง จึงมีการลงมติอนุญาตให้มีการควบรวมกิจการแบบไม่เป็นเอกฉันท์” แหล่งข่าวกล่าวกับกรุงเทพธุรกิจ

ทั้งนี้ หลังจากมีมติออกมาแล้วต้องส่งคำสั่งของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าให้กับกลุ่มซีพีภายใน 7 วัน รวมทั้งแหล่งข่าวบอกกับกรุงเทพธุรกิจว่าจะต้องมีการสรุปคำวินิจฉัยที่ครอบคลุมความเห็นของทั้งกรรมการที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการ

สำหรับการพิจารณาคำขอควบรวมกิจการจะใช้เวลา 90 วัน และเมื่อครบกำหนดในวันที่ 29 ต.ค.2563 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ามีมติขยายระยะเวลาการพิจารณาอีก 15 วัน เพราะมีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณารายละเอียด เช่น ผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลกระทบต่อผู้บริโภค ผลกระทบต่อการแข่งขันจากผู้ประกอบธุรกิจที่รวมธุรกิจ

การยื่นขอควบรวมกิจการครั้งนี้ บริษัทในเครือซีพี ได้ทำการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทเทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในไทย

การเข้าซื้อดังกล่าวซีพีดำเนินการผ่านบริษัท ซี.พี.รีเทลโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งบริษัทแห่งนี้แบ่งการถือหุ้นจากบริษัทในเครือเป็น 3 ราย คือ

1.บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 40%

2.บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 40%

3.บริษัทซีพี เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 20%

รวมทั้งการเข้าซื้อครั้งนี้กลุ่มซีพีดำเนินการไปพร้อมกับการซื้อหุ้นบริษัท Tesco Stores (Malaysia) Sdn.Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco ในประเทศมาเลเซีย รวมแล้วการซื้อหุ้น Tesco ในไทยและมาเลเซียมีมูลค่า 338,445 ล้านบาท