วิธีเอาตัวรอด! ผู้ประกาศสาวห้างโดนโจรใช้ปืนจี้เข้าป่าหวังข่มขืน หลังเลิกงานกลับบ้านดึก

เตือนภัยสังคมและวิธีเอาตัวรอด! ผู้ประกาศสาวห้างดังยโสธร ถูกโจรหื่นใช้ปืนจี้บังคับเข้าป่าหวังข่มขืน ขณะเลิกงานกลับบ้านกลางดึก

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2563 นางสาวหนิง (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ผู้เสียหายได้นำผู้สื่อข่าวไปชี้จุดเกิดเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.40 น. ที่ผ่านมา บริเวณเส้นทางระหว่างบ้านคำเกิดไปบ้านหนองหงอก พื้นที่บ้านคำเกิด ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ห่างจากหมู่บ้านคำเกิดประมาณ 500 เมตร

นางสาวหนิงเผยว่า หลังเลิกงานและกำลังขับรถจักรยานยนต์ เดินทางกลับบ้านพักตามลำพังคนเดียว แต่ทางเข้าหมู่บ้านค่อนข้างเปลี่ยว จนไปถึงที่เกิดเหตุจึงพบว่า มีคนร้ายเป็นชายปิดบังใบหน้าขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบด้านข้าง พร้อมกับชักอาวุธปืนของมาจี้ บังคับให้หยุดรถ จึงตกใจจึงรีบจอดรถแล้วพยายามวิ่งหนี

ในระหว่างนั้น กดโทรศัพท์ออกไปหาพ่อ จากนั้นคนร้ายขับรถไล่ตามมาทัน พร้อมกับขู่ว่าจะยิงให้ตายถ้าไม่หยุดวิ่ง จึงหยุดและนำโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงไว้เหมือนเดิมทั้งๆที่ยังกดเรียกไปหาพ่ออยู่ คนร้ายจึงบังคับให้ขึ้นรถไปด้วย โดยให้นั่งด้านหน้าส่วนคนร้ายนั่งคร่อมทางด้านหลัง แล้วเลี้ยวเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทางและไปจอดอยู่ในป่ามันปะหลังบังคับให้ถอดกางเกงแต่ตนขัดขืน คนร้ายจึงขู่จะยิงอีกจึงปลดกระดุมกางเกง ยื่นถุงยางอนามัยให้เป็นคนฉีกถุง คนร้ายจึงบอกให้ขึ้นไปนั่งบนเบาะรถจักรยานยนต์ จากนั้นคนร้ายได้ขึ้นมานั่งคร่อม และในระหว่างนั้นพ่อของตนได้ขับรถกระบะมาถึงที่เกิดเหตุพอดีและตนได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ที่กดโทรออก ทิ้งไว้ว่าเป็นเสียงขอพ่อจึงได้ ประวิงเวลาและพยายามพูดกับคนร้ายเพื่อแจ้งพิกัดให้ชัดเจนว่าตนอยู่ตรงไหน

โดยตนได้พูดขึ้นว่า พาตนเข้ามาในป่ามันสำปะหลังทำไม จนกระทั่งพ่อเลี้ยวรถเข้ามาในซอยป่ามันสำปะหลัง เมื่อคนร้ายเห็นแสงไฟรถเข้ามาใกล้จึงได้รีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีลัดเลาะไปตามไร่มันสำปะหลังทันที ตนจึงร้องตะโกนบอกพ่อว่ามันหนีไปแล้วและพ่อก็พยายามขับรถไล่ติดตามแต่ตามไม่ทัน

ขณะที่ บิดาผู้เสียหาย เผยว่าคืนวันเกิดเหตุช่วงเกิดเหตุ ตนได้มีโทรศัพท์ลูกสาวโทรฯเข้ามาที่เบอร์ของตนแต่ไม่มีเสียงพูดของลูกสาวนอกจากได้ยินเสียงลูกสาวพูดกับผู้ชายตน จึงทราบทันทีว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จึงรีบขับรถยนต์ออกไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมกับภรรยาจนไปเห็นรถจักรยานยนต์ของลูกสาวจอดอยู่ข้างทางแต่ไม่เห็นคน ซึ่งระหว่างนั้นตนก็ยังฟังเสียงโทรศัพท์ตลอดโดยไม่วางสายและขณะนั้นตนได้เสียงลูกสาวพูดว่าอยู่ในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งถนนก็มีไร่มันสำปะหลังแต่ตนจึงตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปทางจุดที่ลูกสาวกับคนร้ายอยู่พอดี ทำให้คนร้ายตกใจกลัวจึงรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที ลูกสาวตนจึงวิ่งหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย

ล่าสุด จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายรายนี้จะหลบหนี ซึ่งก็ได้ภาพหลักฐานมาบางส่วนแล้วและได้ให้พิสูจน์หลักฐานเข้าไปเก็บรอยนิ้วมือแฝงตามรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อนำมาประกอบเทียบเคียงกับแฟ้มประวัติอาชญากรในพื้นที่และขณะนี้ก็พอที่จะทราบตัวคนร้ายแล้วรอเพียงพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อจะได้ขออนุมัติหมายจับเข้าจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป