“พิพัฒน์”เล็งถกทูตจีนดันทราเวิลบับเบิล

“พิพัฒน์”เล็งถกทูตจีนดันทราเวิลบับเบิล

ลุ้น“ประยุทธ์”ถก“สิจิ้นผิง” แจ้งเกิดทราเวลบับเบิลไทย-จีน “พิพัฒน์” เตรียมเจรจาสถานทูตจีน ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจีนจาก 22มณฑล ปลอดโควิดนานกว่า 150 วัน เที่ยวไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯเตรียมเจรจากับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเรื่องทราเวลบับเบิล(Travel Bubble)หรือการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัดจับคู่กับประเทศหรือเมืองในประเทศจีนเพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันโดยไม่ต้องกักตัว  โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจีนจาก22มณฑลที่ปลอดจากเชื้อโควิด-19เป็นระยะเวลามากกว่า150วันซึ่งมีฐานประชากรรวมกว่า800ล้านคน

“กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)เรื่องทำทราเวลบับเบิลกับประเทศจีนก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19หรือศบค.และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตามลำดับโดยหวังว่าครม.จะอนุมัติก่อนวันที่1ม.ค.2564เป็นของขวัญให้กับคนไทยทั้งประเทศเพื่อเป็นแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศต่อไปและจะพยายามดึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกจากการทำทราเวลบับเบิลให้ทันช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนในเดือนก.พ.2564”

นายพิพัฒน์ ยังกล่าวว่า เรื่องทราเวลบับเบิลกับเมืองในประเทศจีนหากได้รับการอนุมัติจากครม.กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะนำเรื่องนี้หารือกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยและขอให้ทางกระทรวงการต่างประเทศ(กต.)เจรจากับกระทรวงการต่างประเทศของจีนก่อนก้าวสู่ขั้นตอนเจรจาระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศคือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยกับนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีของจีน

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ติดตามข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มวีซ่าประเภทพิเศษ(Special Tourist VISA : STV)ล่าสุดตลอดเดือนพ.ย.นี้พบว่า จะยังไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางเข้าไทยรวมถึงนักท่องเที่ยวจากกลุ่มสแกนดิเนเวียซึ่งเดิมมีกำหนดบินเข้าไทยวันที่2พ.ย.ที่ผ่านมาเนื่องจากประเทศในกลุ่มยุโรปเผชิญการระบาดของโรคโควิด-19อีกระลอกจนต้องกลับมาล็อคดาวน์กันอีกครั้งทำให้ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานรัฐและเอกชนท่องเที่ยวไทยยังต้องเดินหน้าทำการตลาดต่อเนื่องโดยหลังจากครม.สัญจรที่จ.ภูเก็ตระหว่างวันที่2-3พ.ย.ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯได้หารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเช่นบริษัทนำเที่ยวและโรงแรมว่าให้ใช้ฐานข้อมูลลูกค้าประจำที่มีอยู่มาทำการตลาดเชิญชวนให้มาเที่ยวไทยและให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ช่วยประสานเรื่องการขอวีซ่าขณะเดียวกันพบว่ายังมีดีมานด์จากนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปอยู่อาทินักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่สนใจเดินทางเข้าไทยด้วยวีซ่าสำหรับพำนักระยะยาวของกลุ่มเกษียณอายุ(O-A)โดยให้บริษัทไทยแลนด์ลองสเตย์เป็นตัวแทนประสานงาน

“ภาคท่องเที่ยวไทยเคยเป็นพระเอกของเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอดแต่พอเจอวิกฤติโควิด-19ที่ยังคงมีการระบาดซ้ำอีกระลอกทำให้หลายๆประเทศเช่นในยุโรปต้องกลับมาล็อคดาวน์อีกครั้งเป็นอุปสรรคต่อการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยกระทรวงการท่องเที่ยวฯจึงคาดการณ์ว่าจบสิ้นปี2563จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่ถึง7ล้านคนโดยน่าจะได้แค่6.8ล้านคน”รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว