"ปารีณา" จ่อใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง หลัง "บก.ปทส." เตรียมฟ้องคดีรุกป่า

"ปารีณา" จ่อใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง หลัง "บก.ปทส." เตรียมฟ้องคดีรุกป่า

ทนายความ ของ ปารีณา ไกรคุปต์ งง บก.ปทส. จ่อฟ้องรุกป่า เผยเจ้าตัว ใช้เอกสิทธิคุ้มครอง เหตุอยู่สมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร

      นางภัทรมน เพ็งส้ม ทนายความของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) มีความเห็นสั่งฟ้องน.ส.ปารีณา หลังพบความผิด 4 ข้อหารุกป่า ว่า ตนงงกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะการต่อสู้เรื่องดังกล่าว ล่าสุดทนายร้องขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบรายละเอียด เช่น ที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียง 100 แปลง และการขอให้สอบสวนผู้ถือครองที่เป็นของน.ส.ปารีณา อย่างไรก็ตามยอมรับว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องดังกล่าว ส่วนที่ บก.ปทส. ส่งอัยการให้ฟ้องคดี ช่วงที่สภาผู้แทนราษฎร เปิดสมัยประชุมนั้น เบื้องต้นน.ส.ปารีณา จะขอใช้เอกสิทธิคุ้มครอง หาก บก.ปทส.​ หรือ อัยการจะดำเนินการ ต้องส่งเรื่องให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งเรื่องมากยังประธานสภาฯ ให้สภาฯ มีมติจะส่งตัวให้ดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุมหรือไม่

      นางภัทรมน กล่าวด้วยว่า คดีที่ บก.ปทส. สั่งฟ้องไปนั้น ทนายต่อสู้ทุกประเด็น เพราะคำกล่าวหาว่าบุกรุกป่านั้น ข้อเท็จจริง น.ศ.ปารีณา เข้าถือครอง ปี 2545 ซึ่งเป็นเวลาที่พื้นที่ดังกล่าวนั้น ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ สปก. มาแล้ว หลายปี อีกทั้งยังเป็นการใช้พื้นที่เพื่อทำเกษตรกรรม ทำฟาร์มไก่ โดยไม่มีการบุกรุก แพ้วถางป่าเพิ่มเติม ตามความหมายของคำว่าบุกรุกป่า อย่างไรก็ตามการสอบสวนเรื่องดังกล่าวใช้เวลาดำเนินการเพียงปีเศษ คือ แจ้งความปี 62 และส่งฟ้องปี 63 ทั้งที่กรณีของบุคคลอื่นต้องใช้เวลากว่า 10 ปี

     “ต้องให้ความเป็นธรรมกับ ส.ส.ปารีณาที่ทำอาชีพสุจริต คือ เลี้ยงไก่ ไม่ใช่ตัดไม้ทำลายป่า หรือ ทำรีสอร์ทในพื้นที่ อีกทั้ง ผู้ถือครองที่ดินก่อนหน้านั้นทำเกษตรกรรม และส.ส.ปารีณาทำเกษตรกรรมต่อ อย่างไรก็ตามตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานั้นไม่ได้ให้ความเป็นธรรม เพราะกรณีที่ที่ดิน สปก. ถูกถือครองเกินพื้นที่ โดยปกติ จะฟ้องขอคืนเท่านั้น ไม่ใช่ดำเนินคดี ทั้งนี้การฟ้องคดีที่เกิดขึ้น ทนายต้องต่อสู้เพื่อให้มีความชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเป็นผลเสียกับประชาชนทั้งประเทศที่ทำมาหากิน บนที่ดิน สปก. ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้รู้สึกงง กับข่าวที่เกิดขึ้นมาก เพราะทนายพยายามร้องขอความเป็นธรรม และต่อสู้ในชั้นสอบสวนอยู่ แต่วันนี้กลับมีข่าวว่าจะฟ้องแล้ว”​นางภัทรมน กล่าว.