ติดโควิด19 ใน ASQ กระทบไทยเปิดประเทศ?

ติดโควิด19 ใน ASQ กระทบไทยเปิดประเทศ?

ขณะที่ประเทศไทยจะมีการผ่อนปรนให้ต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น ภายใต้แผนสมดุลความปลอดภัยและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีการกักตัวในรูปแบบต่างๆมากขึ้น ทว่า การเจอหญิงฝรั่งเศสติดโควิด-19ในสถานที่กักกันทางเลือกแห่งหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อมาตรการ “เปิดประเทศไทย”หรือไม่

ปัจจุบันผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยทั้งคนไทยและต่างชาติ จะ ต้องเข้ารับการกักตัว 14 วันในสถานที่กักกันรูปแบบต่างๆ มีแบบที่รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย และผู้กักตัวสมัครใจจ่ายเอง

ประกอบด้วย 7 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.สถานที่กักกันที่รัฐกำหนด (State Quarantine) รับคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศ รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย2.สถานที่กักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine:ASQ) รับคนไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ ผู้เดินทางสมัครใจจ่ายเอง 3.สถานที่กักกันที่รัฐกำหนดในพื้นที่(Local Quarantine:LQ) รับคนไทยที่เข้าประเทศผ่านด่านพรมแดน หรือด่านท่าเรือ ในต่างจังหวัด รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย

4.สถานที่กักกันทางเลือกในพื้นที่(Alternative Local Quarantine;ALQ) รับคนไทยหรือต่างชาติที่เข้าประเทศผ่านด่านพรมแดน หรือด่านท่าเรือ(ในต่างจังหวัด) ผู้เดินทางสมัครใจจ่ายเอง 5.สถานที่กักกันโดยองค์กร(Organizational Quarantine:OQ) รับคนไทยหรือต่างชาติที่เข้าประเทศโดยหน่วยงานหรือองค์กร ซึ่งหน่วยงาน องค์กรรับผิดชอบค่าใช้จ่าย  6.สถานที่กักกันในสถานพยาบาลที่รัฐกำหนด(Hospital Quarantine:HQ) รับคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศที่มีเหตุผลทางสุขภาพ /รัฐจ่าย และ7.สถานที่กักกันทางเลือกในสถานพยาบาล(Alternative Hospital Quarantine:AHQ) รับต่างชาติที่เดินทางเข้ามารักษาด้วยโรคอื่นๆ /ผู้เดินทางจ่ายเอง

และในอนาคตจะมีการดำเนินการเพิ่มอีก  2 รูปแบบ คือ สถานที่กักกันในกิจการดูแลสุขภาพ( Wellness Quarantine:WQ) รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามารับบริการดูแลสุขภาพ แบ่งเป็นLongTerm Care สนามกอล์ฟ (ศบค.เห็นชอบแล้ว อยู่ระหว่างเปิดรับสมัคร)และรอเสนอศบค.อีก 1 รูปแบบ คือ การท่องเที่ยวแบบ Exclusive Travel Area(ETA) จะให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกักตัวในพื้นที่เฉพาะ (Area Quarantine:AQ)และสามารถท่องเที่ยวในวันที่ 0-14ได้ในเส้นทางที่กำหนด นำร่องในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงราย บุรีรัมย์และสุราษฎร์ธานี


160405181925


แม้ว่าล่าสุดจะมีการพบกรณีหญิงชาวฝรั่งเศส น่าจะติดเชื้อในสถานที่กักกันทางเลือกในจ.สมุทรปราการ ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อมาตรการเปิดประเทศของไทย รวมถึง การพิจารณาลดวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วันด้วย

เนื่องจากการดำเนินการกักกันในรูปแบบ รูปแบบ WQ หรือ AQ เป็นการรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยงต่ำที่มีความเสี่ยงโรคโควิด19ต่ำหรือเท่ากับประเทศไทยเท่านั้น โอกาสที่จะมีการแพร่เชื้อในการใช้พื้นที่ส่วนรวมจึงน้อยกว่าASQ ที่รับผู้เดินทางจากต่างประเทศจากทุกประเทศที่สมัครใจเข้าพัก แต่WQและAQจะเพิ่มความเสี่ยงขึ้นทันทีเช่นกันหากมีการหละหลวมในมาตรการที่เป็นมาตรฐาน!

อีกทั้ง อัตราตราการติดเชื้อของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่กักกันรูปแบบต่างๆไม่ได้มีความแตกต่างกัน  โดยพบว่าสถานที่กักกันโดยรัฐ(State Quarantine:SQ) ผู้เดินทางเข้า 72,813 ราย ติดเชื้อ 601 ราย อัตราติดเชื้อ 0.83%

ASQ ผู้เดินทางเข้า 25,113 ราย ติดเชื้อ 105 ราย อัตราติดเชื้อ 0.42%  สถานที่กักกันดดยรัฐระดับพื้นที่(Local State Quarantine:LQ) ผู้เดินทางเข้า 31,470 ราย ติดเชื้อ 82ราย อัตราติดเชื้อ 0.26% สถานที่กักกันทางเลือกในสถานพยาบาล( Alternative Hospital Quarantine:AHQ)และสถานที่กักกันในสถานพยาบาล (Hospital Quarantine:HQ)ผู้เดินทางเข้า 1,329 ราย ติดเชื้อ 13ราย อัตราติดเชื้อ 0.98% และสถานที่กักกันโดยองค์กรหรือหน่วยงาน(OQ)ผู้เดินทาง4,358  ราย ติดเชื้อ 6ราย อัตราติดเชื้อ 014% สะท้อนเห็นว่ามาตรฐานต่างๆที่จัดไว้ให้ASQ ยังใช้ได้ เพียงแต่อาจจะต้องปรับปรุงบางจุด

160405184663

ส่วนมาตรการใน ASQ นั้นก็มีการปรับมาตรการเช่นกัน โดยจะเป็นการผ่อนคลายและอำนวยความสะดวกบุคคลระหว่างการกักตัวตามระดับความเสี่ยงของประเทศต้นทาง   โดยพิจารณาจากจำนวนผู้ป่วยใหม่โควิด-19เฉลี่ยจากข้อมูลย้อนหลัง 14 วัน   ผลการประเมินตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ และดัชนีการฟื้นตัวของประเทศจากโควิด-19

เป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน เป็นต้น เสี่ยงปานกลาง เช่น แคนาดา  และเสี่ยงสูง เช่น สหรัฐอเมริกา  บังกลาเทศ บราซิล สเปน เป็นต้น  ในการพิจารณาอนุญาตให้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากขึ้น  หากเสี่ยงต่ำอาจจะมีการผ่อนคลายความสะดวกมากกว่าเสี่ยงสูง

ส่วนการลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน ก็ได้รับการยืนยันจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ว่า คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นด้วยในหลักการเรื่องการลดวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ10 วัน  เพียงแต่กำชับว่าในช่วงเวลา 4 วันที่ลดไปนั้น จะต้องมีมาตรการเสริม เช่น ระบบการติดตามตัวและการรายงานอาการตัวเองด้วยการวัดไข้ และช่วงเวลาดังกล่าวขอให้มีพฤติกรรมนิวนอมัลอย่างเคร่งครัด มีการใส้หน้ากากอนามัย และไม่ไปในสถานที่ที่พบปะกับคนจำนวนมากเป็นต้น

ทั้งนี้ เดิมที่กรมควบคุมโรคจะมีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของศบค.ในครั้งที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีกรณีการพบหญิงฝรั่งเศสติดโควิด19โดยตรวจเจอขณะเข้ารับการตรวจในรพ.ที่อ.เกาะสมุยจึงถอนจากศบค.ออกมาก่อน และจะนำเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่ามาตรฐานในการคัดกรองและตรวจหาเชื้อไม่ได้ลดลง