ฝ่ายค้านยก5เหตุผล จี้’ประยุทธ์’ ลาออก ‘ก้าวไกล’ จ่อชงตั้งกมธ.สอบตร.บกพร่องปมขวางขบวนเสด็จ

ฝ่ายค้านยก5เหตุผล จี้’ประยุทธ์’ ลาออก ‘ก้าวไกล’ จ่อชงตั้งกมธ.สอบตร.บกพร่องปมขวางขบวนเสด็จ

ฝ่ายค้านยก5เหตุผล จี้’ประยุทธ์’ ลาออก ‘ก้าวไกล’ ยกพ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย ชี้ปมขวางขบวนเสด็จความบกพร่องตร.-รัฐบาล จ่อชงตั้งกมธ.สอบ ขณะที่ "ส.ว.เสรี" จวกคนอยู่เบื้องหลังม็อบดึงเด็กมาเรียกร้องการเมือง

ในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัตติของเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา165 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิรายต่อที่ประชุมว่า ว่า ตนในฐานะสมาชิกรัฐสภาแนะนำให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งตนเคยพูดเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งมองว่า ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวพล.อ.ประยุทธ์

ดังนั้นจึงเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ควรลาออกด้วยเหตุผล5ข้อ

1.ญัตติเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญที่เสนอเป็นญัตติที่ไม่มีความจริงใจในการใช้เวทีสภาแก้ปัญหา ไม่ได้การเสนอต้นตอปัญหาว่าเหตุใดจึงมีกลุ่มผู้ชุมนุมออกาขับไล่  ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความจริงใจแก้ไข แต่กลับประวิงเวลาโดยตั้งกมธ.ขึ้นมาศึกษา หรือแม้แต่การชุมนุมที่มีการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมเห็นได้ชัดจากการยกเลิกประกาศสถาการ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กทม.

2.ประชาชนหมดศรัทธาต่อพล.อ.ประยุทธ์จึงมีการออกมาขับไล่ซึ่งเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามาตรา 44ของรัฐธรรมนูญ  แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชน ซึ่งถือว่าผิดรัฐธรรมนูญมาตรา44

160369927447

3.การบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวทั้งช่วงมีก่อนและหลังโควิด แต่กลับมีการเร่งรัดออกพ.ร.ก.กู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.90ล้านล้านบาท  4.การเปิดประชุมครั้งนี้เป็นการอาศัยสภาเพื่อหลบภัย เพราะที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยให้ความสนใจกระบวนการรัฐสภา ไม่เคยมาตอบคำถามเรื่องความเดือดร้อนต่อประชาชน

5.กรณีการถวายความปลอดภัยมองว่าเป็นความบกพร่องโดยเฉพาะในส่วนของผู้ลบัยชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)แต่เหตุใดไม่ถูกลงโทษ  และอีกคนที่ถือว่าบกพร่องคือตัวพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้รักษาการตามพ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย

ดังนั้นจึงเห็นว่า หากพล.อ.ประยุทธ์มีการบริหารราชการตามที่ระบุไว้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา164 ที่ระบุว่า ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์ ปัญหาทั้งหมดก็จะไม่เกิด ดังนั้นเชื่อว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ลาออกปัญหาทุกอย่างจะหมดไปทั้งการชุมนุม การปิดห้าง และการเอื้อเจ้าสัว

 “ก้าวไกล”จ่อชงตั้งกมธ.สอบขวางขบวนเสด็จ

ด้าน น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายญัตติกรณีมีการขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนินฯเมื่อวันที่14ต.ค.ว่า กรณีที่เกิดขึ้นมองว่า เป็นความผิดพลาดจากการจัดเส้นทางเสด็จ ของทางฝั่งเจ้าหน้าที่ พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมวันดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีขบวนเสด็จและเมื่อทราบก็มีการหลีกเลี่ยง

อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนออกจากถนนราชดำเนินไม่ได้มีการฝ่าแนวกั้นไม่ยังถนนพิษณุโลกแต่อย่างใด

ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่าจะมีขบวนเสด็จ และไม่มีการเตรียมเส้นทางล่วงหน้า ทั้งที่ผบช.น.ก็อยู่บริเวณดังกล่าวแต่กลับมีการวางกำลังกั้นจนทำให้มวลชนเข้าใจผิดว่า จะมีการสลายการชุมนุม จนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องมีการวางแนวกั้นเพื่อป้องกัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขอตั้งข้อสังเกตุ3ข้อ 1.เหตุใดจึงไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีขบวนเสด็จ2.เรื่องนี้ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หรือไม่ เพราะโดยหลักการถวายความปลอดภัย จะต้องมีการถวายความปลอดภัยขั้นสูงสุด

3.เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เส้นทางถนนพิษณุโลก เป็นเส้นทางเสด็จไปวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ทั้งที่รู้ว่าไม่สะดวก และได้เตรียมเส้นทางรองไว้หรือไม่ ถ้ามีทำไม่เจ้าหน้าที่ที่ถวายอารักขาจึงตัดสินใจมาในเส้นทางถนนพิษณุโลกทั้งที่มีเส้นทางอื่นอาทิถนนศรีอยุธยาที่สามารถใช้เป็นเส้นทางเสด็จได้

กรณีนี้รัฐบาลไม่พยายามที่จะสอบสวนหาสาเหตุแต่กลับมีการบิดเบือนว่าเป็นความผิดของผู้ชุมนุม ส่วนตัวจะเสนอให้มีการตั้งกมธ.วิสามัญเพื่อตรวจสอบกรณีที่เกี่ยวข้องในโอกาสต่อไป

160369975326

สว.จวกเบื้องหลังม็อบใช้เด็กเป็นเครื่องมือ 

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า แม้ว่าการหารือในสภาจะไม่ทำให้ผู้ชุมนุมยุติได้ แต่อาจจะเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด เพราะเป็นการเสนอความจริงที่ประชาชนเป็นห่วงเป็นใย ในหัวข้อแรกที่รัฐบาลเป็นห่วงว่าการชุมนุมอาจทำให้เกิดโรคระบาดง่าย ควรต้องให้ข้อชุมนุมทำความเข้าใจ แต่ไม่ได้ยับยั้งให้เลิกชุมนุม แต่ต้องให้เข้าใจว่าการเผยแพร่ไม่ใช่อยู่ที่ผู้ชุมนุม อาจจะระบาดไปถึงคนที่บ้าน ตนขอชมเชยรัฐบาลที่ป้องกันและแก้ปัญหาโรคระบาดได้อย่างดี

ส่วนเรื่องการชุมนุมที่ต่อเนื่องและส่งผลต่อขบวนเสด็จ ผ่านพ้นไปแล้วและเป็นบทเรียนสำคัญ ใครทำผิดต้องถูกดำเนินคดี ส่วนมาตรการที่จะเสนอแนะ คือ ต้องป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าฟื้นฝอยหาตะเข็บ ก็จะเป็นความขัดแย้งไม่สิ้นสุด และในข้อที่ 3 เป็นปัญหาทางการเมือง การชุมนุมเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ หรือก้าวล่วงไปยังสถาบัน ทั้งหมดก็จะอยู่ในรัฐธรรมนูญ มันคือการเมืองแท้ๆ และการเมืองในบ้านเราก็เป็นฝั่งฝ่ายตลอด การเล่นการเมืองควรจะมีวัฒนธรรม สร้างกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการเมืองในรัฐสภา แต่เมื่อแบ่งเป็นฝักฝ่ายหลายครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าใครเนฝ่ายบริหารก็จะมีอีกฝ่ายมาขับไล่

แต่ตอนนี้ต่างจากเมื่อก่อน เราไปดึงเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมเรียกร้องทางการเมือง ขาดความเคารพ ขาดความเกรงใจ ขาดความให้เกียรติ ยุคก่อนไม่มี แต่มาเกิดในยุคนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นนักเรียน เยาวชนออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ความเป็นจริงต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง ถ้าไม่มีจะไม่เลยเถิดมาขนาดนี้ได้ และผลกระทบที่ตามมา คือบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย เศรษฐกิจมีปัญหา พ่อแม่ครูสอนเด็กไม่เชื่อ คนที่อยู่เบื้องหลังมีความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้าต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงใช้วิธีนี้ถูกต้องหรือ ทำลายวัฒนธรรมการเมือง

ดังนั้นความรับผิดชอบไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลหรือสภาอย่างเดียว ต้องขอความร่วมมือพ่อแม่ครู ชี้แจงให้เด็กเข้าใจปัญหาอย่างสมเหตุผล และอดทนไม่ใช้ความรุนแรง ตนถามกลับว่าเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือเปล่า มาเล่นการเมืองกันแบบนี้แล้วหรือเปล่า และนายกรัฐมนตรีทำอะไรผิดถึงต้องลาออก หากย้อนดูผลงานก็ทำงานอย่างเต็มกำลัง สร้างประเทศสร้างบ้านเมืองให้ดีกว่าเดิม แต่เกิดผลกระทบ เพราะคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ แต่ก็มีคนส่วนหนึ่งเสียประโยชน์ เช่น การจัดระเบียบประมง การจัดระเบียบรถตู้ หรือการบุกรุกป่า และเมื่อเกิดการชุมนุมก็เกิดการรวมตัวที่ไม่เอารัฐบาล ตนฟังเสียงจากประชาชนมาแล้วยังอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อไป ตนจึงขอเสนอให้รัฐบาลประชาสัมพันธ์ผลงานให้ประชาชนเห็นอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลต้องหางานให้เยาวชน ถ้าทำได้ความเกลียดชังก็จะลดลง รัฐบาลอย่าหยุดยั้งสร้างผลงานต่อไป