'บิ๊กป้อม' แนะ ให้รอดูสภา หาก 'นายกฯ'ไม่ลาออก

'บิ๊กป้อม' แนะ ให้รอดูสภา หาก 'นายกฯ'ไม่ลาออก

'พล.อ.ประวิตร' เกาะติดประชุมรัฐสภาวิสามัญ ระบุ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ปัดตอบ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกหรือไม่

เมื่อวันที่ 26  ต.ค.  เวลา 14.20 น. ที่สวนสาธารณะเบญจกิติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า ติดตามฟังอยู่ตลอด ก็เรียบร้อยดี 

เมื่อถามว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมไม่ลาออกจะมีทางออกอื่นอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เดี๋ยวรอดูที่สภาฯ” เมื่อถามย้ำว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ลาออกแน่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “แล้วจะไปรู้อะไร” 
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า แบบนี้จะเกิดเหตุม็อบชนม็อบหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามโดยขึ้นรถกลับทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2 – 3 ระหว่างกรมธนารักษ์ กับ กองทัพบก โดยมีนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดี กรมธนารักษ์ ลงนามร่วมกับพล.อ.ณรงค์ พันธ์จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก  (ผบ.ทบ.) และมีนายสันติ พร่อมพัฒน์ รมช.คลัง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เข้าร่วมพิธี
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การก่อสร้างสวนป่า เบญจกิติระยะที่ 2-3 ระหว่างกรมธนารักษ์กับกองทัพบก เพื่อพัฒนาที่ดินผืนนี้ให้เป็นสวนป่าที่สมบูรณ์เต็มพื้นที่ 320 ไร่

นอกเหนือจากที่จัดทำเป็นสวนน้ำเบญจกิติ ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเมื่อปี 2547 เนื้อที่ 130 ไร่ และในปี 2559 ได้ก่อสร้างสวนป่าระยะที่ 1 ไปบางส่วน เนื้อที่ 61 ไร่ การจัดสร้างสวนป่าระยะที่ 2-3 มีแนวคิดในการออกแบบเพื่อสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระพันปีหลวงในเรื่องป่าและน้ำที่ทรงมุ่งมั่นทำมาตลอด และมีพระราชเสาวนีย์ไว้เมื่อปี 2525 ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรกภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” อย่างไรก็ตามการจัดสร้างสวนป่าระยะที่ 2-3 นี้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมโดยรวมของกทม.และร่วมกันเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุง

นายสันติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากปี2562คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดําเนินการก่อสร้างโครงการสวนป่าเบญจกิติระยะที่2-3เนื้อที่ ประมาณ 259 ไร่ ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนก.พ. 2565 โดยแบ่งการก่อสร่างออกเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ก่อสร้างที่ 1 จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย. 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 ส.ค. 2564 และพื้นที่ก่อสร้างที่ 2 ดําเนินการใน ส่วนงานสวนที่เหลืองานปรับปรุงอาคารเดิม ให้เป็นอาคารกีฬาและอาคารพิพิธภัณฑ์ให้แล้วเสร็จในเดือนก.พ. 2565 เพื่อให้การก่อสร้างสวนป่าในพื้นที่ก่อสร้างที่ 1 แล้วเสร็จตามแผนที่กําหนด และสามารถจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทันตามกรอบ ระยะเวลาที่กําหนด กรมธนารักษ์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอํานวยการจัดสร้างสวนป่าเบญจกิติได้ขอความร่วมมือจากกองทัพบก กองทัพภาคที่1 โดยกองพลพัฒนาที่1 เป็น ผู้ดําเนินการก่อสร้างสวนป่าเบญจกิติระยะที่2-3เนื่องจากที่ผ่านมากองทัพบกให้การสนับสนุนและดําเนินการก่อสร้าง

นายสันติ กล่าวต่อว่า สําหรับโครงการสวนป่า เบญจกิติระยะที่ 2-3 ออกแบบภายใต้แนวคิดในการสืบสานพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ในการปลูกป่าในใจคน ด้วยการเป็นสวนป่าสําหรับคนเมืองที่เชื่อมโยงและเอื้อต่อการเข้ามาทํากิจกรรมและใชเประโยชน์ในวิถีชีวิตของคนเมือง เป็นศูนย์เรียนรู้มีชีวิต ที่สร้างความผูกพันและสํานึกรักในคุณค่าของป่า น้ํา ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อนําไปสู่การมีส่วนร่วม และสํานึกหวงแหนดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ในการออกแบบเน้นให้มีพื้นที่สวนป่ามากที่สุดมีการปลูก มีงานสร้างอัฒจันทน์ทางเดิน ลอยฟ้า ทางวิ่ง ทางจักรยาน และทางเดินโดยรอบโครงการ โดยให้มีสิ่งปลูกสร้างที่เหมาะสมและกลมกลืนกับความ เป็นสวนสาธารณะในเมือง นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอาคารเดิมให้สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบและตรงตามวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างโครงการฯ
ด้านพล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพบกใช้กำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองพลพัฒนาที่ 1 ซึ่งที่ผ่านมากองทัพบกก็ได้ดำเนินการในระยะที่ 1 ก็ไม่มีปัญหาอะไร ครั้งนี้ก็มาดำเนินการระยะที่ 2-3 ต่อ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ให้พื้นที่กทม.มีสวนป่าใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวคนกทม.เพื่อใช้เวลาวันหยุดทำกิจกรรมร่วมกัน

160369854975