‘ดาวโจนส์’ทะยาน 112 จุด

‘ดาวโจนส์’ทะยาน 112 จุด

ดัชนี‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดวันศุกร์ (16ต.ค.)ทะยาน 112 จุด หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 วัน ขานรับยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 112.11 จุดหรือ 0.39% ปิดที่ 28,606.31 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.47 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 3,483.81 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 42.32 จุดหรือ 0.36% ปิดที่ 11,671.56 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 5 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.

ยอดค้าปลีกดีดตัวขึ้นในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากยอดขายเสื้อผ้า

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4%

ราคาหุ้นโบอิงพุ่งขึ้น 5% หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศในวันนี้ว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ มีความปลอดภัยที่จะขึ้นบิน หลังจากมีการสั่งห้ามบินนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ถูกสั่งห้ามบิน หลังจากที่เครื่องบิน 2 ลำของรุ่นดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุตกลงในปี 2561 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน

นอกจากนี้ บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) ในช่วงปลายเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ ไฟเซอร์พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับไบโอเอ็นเท็ค( BioNTech) ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี

ไฟเซอร์ระบุว่า การยื่นจดทะเบียนวัคซีนจะเกิดขึ้น ทันทีที่มีข้อมูลยืนยันผลการทดลองว่ามีความปลอดภัย โดยอาจมีการยื่นจดทะเบียนในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพ.ย.

แม้ว่าไฟเซอร์ไม่สามารถวางจำหน่ายวัคซีนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. แต่การยื่นจดทะเบียนดังกล่าวจะทำให้สหรัฐมีวัคซีนต้านโควิด-19 ภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสกัดการแพร่ระบาดในสหรัฐ โดยขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 8,200,000 ราย เสียชีวิตมากกว่า 222,000 ราย