อคส.มั่นใจ ปม "จัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน" เอาผิดคน เอาเงินคืนได้ทั้งหมด

อคส.มั่นใจ ปม "จัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน" เอาผิดคน เอาเงินคืนได้ทั้งหมด

ผอ.อคส. รอดีเอสไอชี้มูลความผิดจัดซื้อถุงมือยาง ก่อนดำเนินการตามกฎหมายกับ “พ.ต.อ.รุ่งโรจน์” รักษาการผอ.อคส.มั่นใจชนะคดี เหตุหลักฐานชัดจัดซื้อผิดระเบียบ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เอาผิดวินัยต่อทันทีหลังคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงสรุปผล

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนกรณีการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่องๆ ละ 225 บาท รวม 112,500 ล้านบาท ที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ อคส.ดำเนินการโดยมิชอบ ผิดระเบียบ ไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส.ส่งผลให้อคส.ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงอายัดเงิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า ล่าสุด ดีเอสไอ ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่อคส.แล้ว 5 ราย รวมตนด้วย และจะสอบเพิ่มอีกหลายราย โดยดีเอสไอ ได้เร่งรัดดำเนินการให้โดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ที่สร้างความเสียหายให้กับอคส.มาก

160217104267

         

โดยเมื่อดีเอสไอชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องแล้ว จะประสาน ปปง. อายัดเงิน 2,000 ล้านบาทที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ได้อนุมัติให้โอนเป็นค่ามัดจำสินค้าให้กับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ผู้รับจ้างผลิตถุงมือยาง รวมถึงยึดทรัพย์ขายทอดตลาดนำเงินมาใช้หนี้อคส. ขณะที่อคส.พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และพวกเช่นกัน รอเพียงดีเอสไอชี้มูลความผิดมาเท่านั้น ส่วนการดำเนินการด้าน ป.ป.ช.นั้นรอให้ดีเอสชี้มูลก่อนเช่นกัน พร้อมกันนั้น ตนจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และพวก ซึ่งเป็นพนักงานอคส.ทันทีที่ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว สรุปผลสอบว่าผิดจริง ซึ่งโทษทางวินัยมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก และไล่ออก

มั่นใจว่า ชนะคดีแน่นอน เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า การดำเนินการของพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องดำเนินการกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด ตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เราจัดหนักแน่นอน

 ส่วนเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท ที่อคส.โอนเป็นค่ามัดจำสินค้าจะได้คืนหมดหรือไม่ เพราะล่าสุดการ์เดียน โกลฟส์ ได้ถอนเงินดังกล่าวออกจากบัญชีไปแล้วนั้น นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เงินจะได้คืนครบทั้งหมดหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ดีเอสไอ แจ้งว่า มีวิธีการติดตามเส้นทางการเงินได้ทั้งหมด และถอนเงินไปแล้วยิ่งดี สามารถติดตามได้แน่นอน

         

 

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากการประชุม บอร์ด อคส. เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2563 มีมติให้อคส.ระงับดำเนินการตามสัญญาซื้อขายถุงมือยาง 8 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาซื้อถุงมือยางจากการ์เดียน โกลฟส์ และสัญญาขายให้กับผู้ซื้อ 7 ราย ทั้งที่เป็นบริษัทไทย และต่างประเทศนั้น ผู้ซื้อบางรายได้ทำหนังสือสอบถามอคส.เพื่อรับมอบถุงมือยาง ขณะที่การ์เดียนโกลฟส์ ทำหนังสือเพื่อขอขยายเวลาส่งมอบสินค้า

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด อคส.มีหลักฐานชิ้นใหม่ที่ยืนยันว่า มีผู้อยู่เบื้องหลัง และสั่งการให้พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ จัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และจะทำหนังสือแจ้งดีเอสไอ ให้สอบปากคำบุคคลดังกล่าวเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อ้างถึงเหตุผลการดำเนินการอนุมัติเงิน2,000 ล้านบาทั้งที่ไม่มีอำนาจว่าเพื่อให้ได้ผลกำไรจากการประกอบธุรกิจถุงมือยางและเพื่อพยุงฐานะของอสค. ส่วนขอบข่ายอำนาจหน้าที่ เบื้องต้นศึกษาข้อกฎหมายว่าด้วย ม.26พระราชกฤษฎีกา จัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. 2498 แล้วพบว่าสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดอคส.