หินจอมธาตุ...ธาตุนี้ที่อุดร

หินจอมธาตุ...ธาตุนี้ที่อุดร

พาเที่ยว "หินจอมธาตุ" อุทยานแห่งชาติน้องใหม่ แบบถอดด้ามของอุดรธานี

ธาตุ...ถ้าตีความกันโดยทางวิทยาศาสตร์ ก็จะเป็นอีกแบบ แต่ถ้าในความเข้าใจและการรับรู้ของคนทั่วไปโดยเฉพาะพี่น้องชาวอีสานหรือพี่น้องชาวลาวแล้ว คำว่า "ธาตุ" เป็นภาษาพื้นถิ่นอีสาน มีความหมายเดียวกับคำว่าเจดีย์ในภาษาภาคกลาง ใช้เรียกสิ่งก่อสร้างที่บรรจุกระดูกของบุคคลหรือประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เราจะเห็นตามวัดจะมีเจดีย์หรือตามผนังกำแพงวัดไว้คอยใส่ธาตุ แต่ก่อนเคยมีการแกะสลักไม้ทำเป็นรูปเจดีย์บ้าง นำไปไว้ตามวัด แต่ปัจจุบันธาตุไม้เหล่านี้หาดูยากแล้ว ที่ยังคงคุ้นหูกันก็คือ พระธาตุ ต่างๆนั่นเอง นั่นขนาดธาตุธรรมดา แต่นี่ จอมธาตุ แล้วไม่ใช่ธาตุไม้ แต่เป็น หินจอมธาตุ ถ้าอย่างนั้น ตามผมมารู้จักกันเถอะ

"หินจอมธาตุ" ที่ผมว่านี่เป็นอุทยานแห่งชาติน้องใหม่ แบบถอดด้ามของอุดรธานี เป็นอุทยานแห่งชาติที่รวบรวมพื้นที่บริเวณภูพระบาทบัวบก บริเวณภูพระบาทบัวบาน บริเวณภูผาแดง บริเวณภูหินจอมธาตุ ภูพานน้อย บริเวณภูผากูบ (ถ้ำสุวรรณคูหา) บริเวณภูผายา บริเวณภูผาเวียง ภูแปลก และภูซางใหญ่ บริเวณภูรัง ภูข้าว (ถ้ำเอราวัณ) เบ็ดเสร็จได้พื้นที่แสนกว่าไร่ แต่เป็นพื้นที่กระจัดกระจายกันเป็นเกาะเป็นหย่อม ใครที่เคยสัญจรผ่านทางกุดจับไปเมืองเลย ไปหนองบัวลำภูก็คงจะเห็นว่ามันจะมีหย่อมภูเขาเป็นหย่อมๆ บางแห่งเคยเป็นวนอุทยานมาก่อนอย่างวนอุทยานภูหินจอมธาตุ วนอุทยานภูผาแดง วนอุทยานภูผายา วนอุทยานพระบาทบัวบก ก็ถูกรวมมาให้เป็นอุทยานแห่งชาติเดียวกัน แล้วใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติภูหินจอมธาตุ ที่ทำการอุทยานฯอยู่ทางอำเภอกุดจับ จังหวัดอุดร ซึ่งเดิมที่เขาประกาศเป็นวนอุทยาน ก็เพราะมีจุดเด่นทางธรรมชาติหรือประวัตศาสตร์ที่น่าสนใจ มีพื้นที่ไม่มาก เขาก็ประกาศรักษาพื้นที่ไว้ก่อน ซึ่งจุดเด่นๆ ก็จะกระจายออกไปตามพื้นที่วนอุทยานฯต่างๆ อย่างตัวที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ก็จะใช้บริเวณวนอุทยานภูหินจอมธาตุเดิม ซึ่งที่นี่เขาจะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินชมธรรมชาติไปบนลานหินทรายโดยมีไฮไลท์อยู่ที่หินจอมธาตุ ดูในรูปเอาน่าจะเข้าใจกว่าว่าทำไมจึงเรียกหินจอมธาตุ แต่สิ่งที่จะเพิ่มเติมคือ ที่นี่ลานกางเต็นท์เขาจะอยู่บนเนิน สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่าง และในช่วงหน้าฝนก็ไม่พ้นบรรดาดอกไม้ดอกหญ้าทั้งหลายที่ออกดอกกันสดชื่น เอาเป็นว่ายังไงก็ได้ที่กางเต็นท์เพิ่มอีกที่หนึ่งแล้วสำหรับชาวกางเต็นท์

160168811880

160168811880

160168812024

แต่ถ้าใช้ถนนสายกุดจับไป อ.สุวรรณคูหา ก็จะไปผ่านวนอุทยานภูผาแดง ซึ่งความที่เป็นวนอุทยานมาก่อนและคงแปรสภาพเป็นหน่วยพิทักษ์ป่าในเร็วๆนี้ ที่ทำการเขาก็เลยเล็กๆแต่ที่นี่มีที่เที่ยวคือตรงบริเวณที่ทำการ เขาจะมีทางเดินศึกษาธรรมชาติเดินขึ้นไปยังผาจันได  ซึ่งเป็นหน้าผาหินทรายที่ตัดหักตกลงในแนวดิ่ง มองเห็นทิวทัศน์ที่เป็นท้องทุ่งนากว้างใหญ่ของ อ.สุวรรณคูหา ถ้าไปหน้าฝนก็จะให้บรรยากาศที่สดชื่นหน่อย ผาจันไดนี่อยู่ติดกับที่ทำการเขาเลย แต่ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกหลายแห่งอย่างผาคู่รัก จุดชมวิวผาแดง หรือปรากฏการณ์ทางธรณีบนลานหินทรายอย่างหลุมสมบัติ ซึ่งผมว่าที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบขี่จักรยานแบบเสือภูเขา เพราะมีเส้นทางเป็นทางลำลองขี่เข้าไปตามจุดต่างๆให้ปั่นจักรยานได้สนุกเชียวแหละ แล้วเดินเท้าอีกนิดหน่อยไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ อย่างมีทางเข้าไปจนถึงอ่างเก็บน้ำร่องป่าม่วย แล้วเดินเท้าเลาะขอบอ่างไปในป่าเต็งรัง ราว 700 เมตร ก็จะถึงลำธาร น้ำตกซำม่วง ซึ่งเป็นน้ำตกลานหินทราย เล่นน้ำได้ บรรยากาศร่มรื่น คือปั่นเสือภูเขาไปแล้วมีจุดหมายปลายทางแบบนี้ จึงเป็นจุดหมายปลายทางของการขี่จักรยานเสือภูเขาเที่ยวเล่นอย่างมาก

ในเมื่อพูดถึง ถ้ำสุวรรณคูหา แล้วจะไม่แวะได้อย่างไร เพราะภูเขาหินปูนของถ้ำสุวรรณคูหา อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเช่นกัน ใครยังไม่เคยไปก็ไปได้อย่างง่าย โดยไปเริ่มที่ตัวอำเภอสุวรรณคูหา ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดหนองบัวลำภู วัดถ้ำสุวรรณคูหาห่างจากตัวอำเภอราว 2-3 กิโลเมตรนี่แหละ ไปเถอะไม่มีหลงทาง ตัววัดนั้นตั้งอยู่ด้านหน้าของภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่มีหน้าผาด้านหนึ่ง แล้วมีเพิงถ้ำที่ทางวัดเขาต่อเป็นหลังคายื่นออกมา ตัวถ้ำตื้นๆไม่ลึกนัก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งที่ผมว่าแปลกตาคือนาคที่มาปรกนี่แหละ ในรูปเอาเถอะ แปลกไหมละ แล้วมีเพิงถ้ำบริวารเป็นถ้ำเล็กๆอีก 2-3 ถ้ำ บริเวณวัดกว้าง โอ่โถงทีเดียว เข้าใจว่าวัดคงได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานฯในโครงการให้สงฆ์ช่วยดูป่าเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งอุทยานฯก็มาจัดตั้งทีหลังวัด ก็คงมีการพูดคุยกันแล้วแหละ

ทีนี้ย้อนกลับไปที่ อ.บ้านผือ ของ อุดรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะไปยัง วนอุทยานภูพระบาทบัวบก  ซึ่งต่อไปก็จะเป็นหน่วยพิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติภูหินจอมธาตุนี่แหละ ไปยิ่งง่ายใหญ่ ก็ถ้าเริ่มจากอำเภอบ้านผือ ก็ไปทางเดียวกันกับที่ไปอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทนั่นเลย ทางเดียวกัน โดยวนอุทยานภูพระบาทบัวบกนี้จะถึงก่อนราว 2-3 กิโลเมตร

...แล้วมีอะไรดีสำหรับที่นี่

160168812041

160168812166

160168812212

ก่อนอื่นเลย ที่นี่มีลานกางเต็นท์ เป็นทำเลกางเต็นท์ที่ใกล้อุทยานประวัตศาสตร์ที่ใกล้ที่สุด แล้วก็ข้าฟอร์มลานกางเต็นท์ของอุทยานฯทั่วไปคือ มีสนามหญ้าสะอาด หญ้าตัดเรียบกริบ ล้อมรอบด้วยพืชพรรณสารพัด เงียบสงบ ห้องน้ำสะอาดและมีน้ำตกให้เล่น เพราะเดินห่างจากลานจอดรถไปแค่ 100 ก็ถึงน้ำตกตาดน้อยแล้ว

น้ำตกตาดน้อยนี้เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่น้ำไหลลงมาจากลานหินทรายที่มีชั้นต่างระดับสูงราว 2 เมตร มีแอ่งน้ำลำธารให้เล่น ชุ่มเย็นกัน แต่ จะมีน้ำช่วงที่เป็นฝนหนักๆ รือปลายๆฤดูฝน ซึ่งอีสานเหนือนี่อยู่ราวเดือนกันยายน เอาเป็นวาถ้าปีนี้ไปไม่ทันก็ปีหน้ายังทัน

แล้วไหนๆไปแล้ว ก็ไปเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทซะเลย ไปเดินดูหอนางอุษา ไปดูบ่อน้ำนางอุษา ไปดูคอกม้าท้าวบารส วัดพ่อตา คือที่นี่ชื่อที่ตั้งจะสอดคล้องกับตำนานท้าวอุษา-บารส ตำนานยอดฮิตของลาวและอีสานบ้านเรานี่เอง(อีกเรื่องดูเหมือนจะเป็นสินไชยหรือสังข์ศิลป์ชัย)แต่จริงๆแล้ว มันเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ เพราะมีการตัดแปลงสภาพแวดล้อมทำเป็นพื้นที่ทางความเชื่อของคนในสมัยประวัติศาสตร์ มีภาพวาดโบราณตามเพิงหิน มีการเจาะหินให้เป็นบ่อน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ ซึ่งน่าสนใจมากทีเดียว แล้วเส้นทางเดินชมนี่เดินได้เป็นกิโลๆ

ขณะนี้อุทยานแห่งชาติหินจอมธาตุยังอยู่ในช่วงของการเตรียมการจัดตั้ง ค่าธรรมเนียมอะไรจึงยังไม่ต้องเสีย ที่เอามาบอกเล่าเพราะจะได้มีที่ที่เที่ยวพักแรมกางเต็นท์ได้อีกที่หนึ่ง เมืองนอกเมืองนายังไปเที่ยวไม่ได้ก็เที่ยวในบ้านเรานี่แหละ ยังมีที่เที่ยวต่างๆ อีกถมไป

ขึ้นต้นด้วยหินจอมธาตุ แล้วลงท้ายด้วยภูพระบาท ใครไปอุดรก็อย่าพลาดสถานที่เหล่านี้ บ้านเรามีดี จึงควรจะไปดูครับ...