“บิทคับ” ผุดตลาดของสะสมดิจิทัล

“บิทคับ” ผุดตลาดของสะสมดิจิทัล

บิทคับ เปิดตัวแฟลตฟอร์มตลาดของสะสมดิจิทัล แปลงชื่อเสียงเป็นโทเค่น แจกเหรียญคริปโต $FANS (Fans Token) ฟรีผ่าน 5 อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังที่มียอดผู้ติดตามกว่า40ล้านบัญชี ช่วยระดมทุนสร้างคอนเทนต์ใหม่และแฟนคลับใกล้ชิดศิลปินมากขึ้น พร้อมกันนี้ เปิด2บริษัทน้องใหม่ในเครือ มุ่งสร้างการรับรู้และการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในไทย

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบิทคับ(Bitkub) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ล่าสุด บริษัทเปิดตัวแพลตฟอร์ม "ตลาดของสะสมดิจิทัล  (Digital Collectibles) ที่อยู่ในรูปแบบของสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) บนระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน(Blockchain Technology) ที่แฟนๆ จะได้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริงตลอดไป

ภายใต้ "โครงการ $FANS (Fans Token)" ร่วมกับ 5 อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง ได้แก่ บี้เดอะ สกา, เก๋ไก๋สไลเดอร์, สไปรท์เดอร์, คิวเท โอปป้า และปลื้ม จาก VRZO Channel ที่มียอดผู้ติดตามรวมกว่า 40 ล้านบัญชีด้วยการประกาศออกเหรียญคริปโต $FANS (Fans Token)แจกฟรีให้แฟนๆ เป็นเจ้าของร่วมกัน

" บริษัทได้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อแปลงชื่อเสียงของพวกเขาทั้ง 5 คนออกมาเป็นมูลค่าให้อยู่ในรูปแบบของเหรียญดิจิทัลโทเค่น โดยที่ไม่ต้องมีการระดมทุนเลยสักบาทเดียว  ซึ่งจะทำให้เกิด Content ใหม่ๆ และกิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้น ทำให้แฟนๆ ได้มีความใกล้ชิดมากขึ้น"

ขณะเดียวกันในปีนี้ทางบริษัท ยังได้เปิดตัวบริษัทในเครือเพิ่มอีกสองบริษัท เพื่อให้การดำเนินการสนับสนุนการรับรู้และการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทยให้เข้าสู่วงกว้างมากขึ้น ได้แก่ "บริษัท บิทคับ แลบส์ จำกัด "หรือ Bitkub Academy เพื่อให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และ " บริษัท บิทคับ บล็อกเชน ซีเคียวริตี้ จำกัด"  มุ่งเน้นในการให้บริการทางด้านความปลอดภัยด้านไซเบอร์บนบล็อกเชนที่ครบวงจร อาทิ Blockchain Security Audit และ Blockchain Security Assessment

หลังจากที่  บริษัท บิทคับแคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด  ได้เปิดดำเนินงานมาครบ 2 ปี โดยมีการดำเนินงานผ่านบริษัทในเครือได้แก่ "บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด"  ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้วยมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่อวันที่ 300 ล้านบาท และครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 90% อ้างอิงจากผู้ใช้งานเข้าระบบ(similarweb.com) และ "บริษัท บิทคับ บล็อกเชนเทคโนโลยี จำกัด" ผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบล็อกเชนเพื่อองค์กรได้ให้บริการองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน

โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตมากขึ้นกว่า 600%  มีการจ้างพนักงานเพิ่มถึง 50 ตำแหน่งและยังเปิดรับอีกกว่า50 ตำแหน่งจนถึงสิ้นปีนี้โดยมีความมุ่งหวังที่จะทำให้บิทคับเป็นสะพานนำผู้คนจากโลกเก่าเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ