JMT

Event

JMT และ Jmart Group จัดประชุมนักวิเคราะห์

lmpact

อนุมัติแผนเพิ่มทุนเพื่อเป็นทางเลือกในการระดมทุน

การที่ JMT และ JMART (บริษัทแม่) อนุมัติแผนเพิ่มทุนก็เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับโอกาสในการทำดีล M&A โดยในกรณีของ JMT บริษัทขอการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 555 ล้านบาท เป็น 787 ล้านบาท โดยการเพิ่มทุนใหม่ 232 ล้านบาท (มูลค่าพาร์ 0.50 บาท/หุ้น) ในรูปแบบ RO และ PP ทั้งนี้ โดยแถมวอร์
แรนต์ JMT-W3 ฟรีจากการจัดสรรความกังวลเกี่ยวกับผลของ dilution ของหุ้น (รวมประมาณ 30%) ทำให้ราคาหุ้นตกลงไป 10% เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

Right issue เป็นทางเลือกสุดท้าย

ตามแผนเพิ่มทุนของบริษัท JMT บอกว่าการขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) จะเป็นทางเลือกสุดท้าย และบริษัทมีแผนจะให้มีการใช้สิทธิ์แปลง warrant ที่มีอยู่แล้วก่อน จากนั้นค่อยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (private placement) ในการนี้ JMART ก็มีแผนจะแปลงสภาพ JMT-W2
ก่อนกำหนดในเดือนก.ย. 2563 (JMT-W2 หมดอายุส.ค. 2564) จำนวน 1.8 พันล้านบาท (หรือประมาณ 40% ของจำนวน JMT-W2 ที่เหลืออยู่ทั้งหมด) ซึ่งจะทำให้ D/E ของ JMT ลดลงจาก 2 เท่า เป็น 1.3-1.4 เท่า ทั้งนี้ JMT มีแผนซื้อสินทรัพย์ 6 พันล้านบาท/1 หมื่นล้านบาท ในปี 2563/2564 (1H63 ซื้อแล้ว 2 พันลบ.) จะให้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของ JMT ในปี 2563 อยู่ที่ 2.0x และปี 2564 อยู่ที่ 2.3-2.4x ดังนั้น ตามแผนการซื้อหนี้ดังกล่าว JMT ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องเพิ่มทุนโดยวิธี RO/PP

JMT จะยังคงจ่ายเงินปันผลสูงต่อเนื่อง

JMART กำนหนดสถานะของ JMT เป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง และจ่ายปันผลสูง โดยอัตราการจ่ายเงินปันผลในอดีตอยู่ในช่วง 70% ของกำไรสุทธิ ซึ่งแม้จะใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลเท่าเดิม แต่ D/E ของ JMT ก็ยังต่ำกว่าเพดานที่ 3 เท่า

คงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 40.00 บาท (P/E ที่ 35x, PEG 1.0x)

เรายังคงประมาณการกำไรของ JMT เอาไว้เท่าเดิม โดยใช้สมมติฐานว่าจะมีการใช้สิทธิ์แปลง JMT-W2 ในปี 2563 ซึ่งจะทำให้ฐานเงินทุนใหญ่ขึ้น ในขณะที่สัดส่วน D/E ลดลงเหลือ 1x ซึ่งจะเพิ่มขึ้น เป็น 1.8xหากบริษัทลดการจ่ายเงินปันผล

Risks

Dilution ที่เกิดกับราคาหุ้น และกำไรต่อหุ้นจากการแปลง warrant ซึ่งในอดีตจะเกิดขึ้นทุก ๆ สองปี margin เปลี่ยนไปจากการเปลี่ยนวิธีการตัดต้นทุน (amortization) ของเงินลงทุน ผลขาดทุนจากการด้อยค่ของสินทรัพย์