2 ปี 'ปฏิรูปกองทัพ' ต่อเนื่อง 'ประยุทธ์' ย้ำ ทบ. เป็นเสาหลัก

2 ปี 'ปฏิรูปกองทัพ' ต่อเนื่อง 'ประยุทธ์' ย้ำ ทบ. เป็นเสาหลัก

ผบ.ทบ. ประชุม 655 ผู้การ-ผบ.พัน เผย “พล.อ.ประยุทธ์” ย้ำ กองทัพบก ต้องเป็นหนึ่งเดียว แตกแยกไม่ได้ ต้องเป็นเสาหลักปกป้องอธิปไตย เผยยึดนายกฯเป็นแบบอย่าง ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เปรียบ ‘ธง’ คือความรับผิดชอบ ทิ้งท้ายกลอน “2 ปี ร่วมปฏิรูปกองทัพบก”

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ ที่หอประชุมกิตติขจร ภายในกองบัญชาการกองทัพบก วานนี้(11ก.ย.) ซึ่งมีผู้บังคับบัญชา แม่ทัพภาค ผู้บังคับการ กรม ผู้บังคับกองพัน รวม 655 นาย เข้าร่วมประชุม ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในสมัยของ พล.อ.อภิรัชต์ ก่อนจะเกษียณอายุราชการในอีก 18 วันข้างหน้า โดยจะมีการรับส่งหน้าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่ในวันที่ 30 ต.ค.นี้

ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้มีการมอบเป้สนามกองทัพบก แบบ A-1 ให้แก่กองทัพบก 800 ใบ โดย ผบ.ทบ.เป็นผู้ออกแบบเพื่อเป็นเป้สนามต้นแบบ มีพิธีมอบเกียรติบัตรชมเชยในการตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพล และประสิทธิภาพของหน่วยทหาร ทบ.ประจำปี 2563 พิธีมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลให้แก่กำลังพลที่แข่งขันทักษะการปฏิบัติด้านไซเบอร์ภายใน ทบ. และพิธีมอบโล่รางวัล และเงินรางวัลจากการจัดกิจกรรมการแข่งขัน Thailand Smart Soldier Strong Man Challenge ครั้งที่ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวตอนหนึ่งถึงการปรับย้ายใน ทบ.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำว่า กองทัพบกต้องเป็นหนึ่งเดียว เป็นเสาหลักในการปกป้องอธิปไตยของชาติ

จะแตกแยกไม่ได้ และในฐานะ ผบ.ทบ.ได้หารือส่วนตัวกับ รมว.กลาโหม เพื่อให้มีการตัดสินใจตำแหน่งต่างๆ ให้เหมาะสม โดยพิจารณาจากขีดความสามารถ มากกว่าพิจารณาจากอาวุโสรุ่น ขอให้เชื่อมั่นว่าทุกคนทุกหน่วย จะต้องมีโอกาสเจริญก้าวหน้าที่ทัดเทียมกัน

นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ได้ปาฐกถาในหัวข้อ “ 2 ปีในการร่วมกันปฏิรูปกองทัพบก" โดยยกประสบการณ์ชีวิตมาแลกเปลี่ยนให้ผู้บังคับหน่วยที่เข้าร่วมประชุมว่า "สำหรับผมแล้ว ธงคือ เครื่องเตือนสติ ทุกครั้งที่รับส่งธง จะนึกเสมอว่า อะไรอยู่ภายใต้ผืนธง ธงผู้พัน ธงผู้การ ต่างก็มีภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน ทุกผืนธงมันหนัก เพราะมันคือความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงเรื่องของเกียรติยศศักดิ์ศรี"

“การสร้างรากฐานที่มั่นคงให้แก่ ทบ.ต้องเริ่มที่ ต้นน้ำ ต้นกำเนิด ทั้งทหารกองประจำการ นักศึกษาวิชาทหาร อาสาสมัครทหารพราน นักเรียนนายสิบ นักเรียนนายร้อย ต้นน้ำเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร ระเบียบ หลักเกณฑ์ ให้สอดคล้องกับยุคสมัย บริบท และทัศนคติของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน”

พล.อ.อภิรัชต์ ยังกล่าวถึงการจัดระบบใน ทบ.ให้มีความโปร่งใส มีมาตรฐานสากล โดยระบุว่า ปัจจุบัน ทบ.ได้เผชิญกับความท้าทายหลายรูปแบบ หนึ่งในเรื่องที่ได้หารือร่วมกับหลายฝ่าย คือ การจัดการสวัสดิการกำลังพล ทบ.ให้มีความโปร่งใส เป็นที่เชื่อมั่นของสังคม รวมทั้งก่อประโยชน์แก่กำลังพลและครอบครัว รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติด้วย ดังนั้นจึงมีการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของ ทบ. กับกรมธนารักษ์ และสวัสดิการภายใน

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญยิ่งในการเป็นผู้บังคับบัญชา จะต้องใส่ใจเรื่องสวัสดิการของผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่องเดือดร้อนต่างๆ ทั้งทางด้านการเงิน ครอบครัวของกำลังพลไม่ได้รับการเยียวยา จากการเสียชีวิต หรือทุพพลภาพของกำลังพลระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เรื่องเหล่านี้คือขวัญและกำลังใจ

ในช่วงท้าย ผบ.ทบ.ได้ฝากข้อคิดในการทำงาน ให้มีวินัย พอเพียง ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมทั้งระบุว่า “โดยส่วนตัว มีท่านนายกฯ เป็นแบบอย่าง ตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ทบ. เวลาท่านไปไหนมาไหน ท่านจะพยายามลดภาระกำลังพลที่ต้องมารับมาส่ง การไปตรวจเยี่ยมแบบไม่เป็นทางการ จะทำให้เราเห็นปัญหา หลายๆ เรื่อง เพียงแค่ขาดการเอาใจใส่ดูแล ธุระไม่ใช่ ดังนั้นหาก ผบ.หน่วย ลงไปคลุกคลีกับลูกน้องบ้าง พูดคุย รับฟัง นั่งกินข้าวกับลูกน้อง เราอาจจะได้รับรู้อะไรดี ๆ เป็นขวัญกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ ผบ.ทบ. และผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของ ทบ.ระบุว่า ได้รับทราบข้อมูลจากช่องทางสายตรง ผบ.ทบ. เรื่องที่ต้องแก้ไขมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ การเลื่อนยศ ตำแหน่ง เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน รองลงมาคือ สวัสดิการกำลังพล และ อันดับสุดท้ายคือการถูกลงโทษโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม หลายเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์ร้องเรียนฯ สายตรง ผบ.ทบ.

“แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง เรื่องเหล่านี้ แม่ทัพ ผบ.พล ไม่มีทางทราบ ดังนั้น ผบ.หน่วย ทุกระดับจะต้องใส่ใจสวัสดิการ สิทธิ กำลังพลของลูกน้อง ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าปล่อยปละละเลยเด็ดขาด แม้ว่าหลายกรณีอาจจะเกิดมาก่อนหน้าที่ท่านดำรงตำแหน่งแล้วก็ตาม ผลลัพธ์ที่จะสะท้อนประสิทธิภาพผู้นำหน่วยได้มากที่สุด คือกำลังพลมีผู้นำที่พึ่งพาได้ เป็นแบบอย่างได้ หน่วยจะดีได้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับหน่วย จึงอยากสะท้อนให้ ผบ.หน่วย ผู้บังคับบัญชาได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย”

ผบ.ทบ.ได้ทิ้งท้ายด้วยบทประพันธ์ “...2 ปีร่วมปฏิรูป กองทัพบก เหล่านักรบ ป้องปกแดนสยาม เหล่าช่วยรบ พร้อมสรรพ ต่อภัยคุกคาม ทั้งเชื้อโรค สงครามไซเบอร์ ไอที ความมุ่งมั่น ใส่ใจในลูกน้อง คือกิจต้องระลึก ไว้ในหน้าที่ ของผู้นำ ผบ.หน่วย ให้จงดี ทบ.นี้ ขับเคลื่อนได้ เพราะทุกคน เกือบ 3 แสน ทหารหาญ ทบ.ไทย ปกป้องชาติ อธิปไตย ทุกแห่งหน พัฒนาชาติ พร้อมช่วยเหลือ ประชาชน แม้วายชนม์ สละได้ ให้แผ่นดิน...”

ภาพ-facebook.com/SMARTSoldiersStrongArmy