ศาลอุทธรณ์ยืน สั่งประหาร 'ผู้กองเหน่ง' - แม่ผอ.อ้อยพอใจคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์ยืน สั่งประหาร 'ผู้กองเหน่ง' - แม่ผอ.อ้อยพอใจคำพิพากษา

ล่าสุด ศาลอุทธรณ์พิพากษาประหารชีวิต "ผู้กองเหน่ง" ยืนตามศาลชั้นต้น ด้านแม่ผอ.อ้อยกราบขอบคุณศาลที่เมตตา ชี้ฆ่าลูกสาวตนที่มีบุญคุณ ผิดมนุษย์ที่เป็นนายทหารพึ่งกระทำต่อประชาชน

วันที่ 1 กันยายน 2563 คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ได้ขึ้นประจำบัลลังก์หลังที่ 5 อ่านคำพิพากษาอุทธรณ์คดี เลขดำที่ อ.81/61 ที่ ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง ซึ่งปัจจุบันได้ถูกถอดยศเป็นนายศุภชัยแล้ว ภายหลังชุดสอบสวนได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและอำพรางซ่อนเร้นศพ นางสาว จุฑาภรณ์ หรือ “ผอ.อ้อย” อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ก่อนที่บิดาและครอบครัวจะเข้าแจ้งความ ที่ สภ.กันทรลักษ์ เพราะตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ

จากนั้นก็ได้ระดมทุกอย่าง ออกติดตามหาร่องรอย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปพบรถยนต์ของ ผอ.อ้อย กำลังถูกนำเข้าไปจอดรอซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งใน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จึงเข้าทำการตรวจยึด กลับมาแกะรอยติดตามตัว สุดท้ายไปพบเป็นศพในป่าชายแดน ข้างทางขึ้นเนิน 500 เขตทหารในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และยังพบหลักฐานที่เกี่ยวโยงกัน นายทหารนายหนึ่ง คือ ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส อดีต นายทหาร สังกัดกรมทหารราบที่ 6 อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้ถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง กรุงเทพมหานคร ในข้อหา ฆ่าโดยไตรตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นอำพลางศพ

ศาลชั้นต้นได้พิจารณามีคำสั่งลงโทษประหารชีวิต แต่ทนายฝ่ายจำเลย ได้ร้องอุทรณ์คดี จนมาครบที่ศาลอุทรณ์ ได้อ่านคำพิพากษา ในวันที่ 1 กันยายน 2563 นี้ นานกว่า 2 ชั่วโมง สรุปมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือ ประหารชีวิต ผู้กองเหน่ง โดยไม่ได้นำตัวผู้ต้องหารับฟังคำพิพากษา เป็นการอ่านผ่านระบบวิดีโอทางไกล มีเพียงพ่อแม่ ญาติ ผอ.อ้อย และทนายความเท่านั้นที่มารับฟัง

นางแหลม-พ่อบุญเลิศ อุ่นอ่อน มารดา-บิดา ของ ผอ.อ้อย ภายหลังนั่งรับฟังคณะผู้พิพากษาศาลอุทรณ์ อ่านคำพิพากษาแล้ว พอใจในระดับหนึ่ง เปิดเผยว่า วันนี้ตนต้องกราบขอบคุณ คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่เมตตาเห็นใจครอบครัวอุ่นอ่อนที่สูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยความโหดร้ายของผู้ที่มีอำนาจในมือ ขณะที่ลูกสาวตนได้ให้ความเมตตาในการช่วยเหลือยืมเงิน ยืมทอง ยืมรถยนต์ แต่กลับมาเนรคุณลวงไปฆ่าทิ้งหมกป่าอำพลางศพเช่นนี้ ตนวาาพฤติกรรมเช่นนี้เหี้ยมโหดเกินมนุษย์ ที่จะทำต่อมนุษย์ด้วยกันได้จริง

ขอบคุณศาลอุทธรณ์ที่ยืนตามศาลชั้นต้นในการมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต ตนอยากให้คำพิพากษาเป็นจริง โดยการนำไปประหารให้เร็วที่สุด แม้ว่าจะไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียของครอบครัวตนก็ตาม แต่ตนก็เชื่อว่าทางฝ่ายทนายและครอบครัวเขาคงจะฎีกาซึ่งเราก็หวังว่าจะได้รับความเมตตาจากศาลในชั้นฎีกาอีกเช่นเคย ความทุกข์ที่เกิดขึ้นก็ยังคงมีต่อคงจะนอนไม่หลับต่อไปอีกจนกว่าลูกจะได้รับความเป็นธรรม

นอกจากนั้น ทนายความยังได้ยื่นเพิ่มเติมในการร้องขอค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายจำเป็นชดเชยอย่างอื่น ค่าขาดไร้อุปการะ และ ค่าเสื่อมโทรมรถยนต์ ค่าเสียหาย อันมิได้เกิดจากการกระทำผิด รวมทั้งสิ้น จำนวน 3,510,000 บาท ด้วย