'ราชกิจจาบุเบกษา' ประกาศต่อ 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' สู้โควิดรอบที่ 5

'ราชกิจจาบุเบกษา' ประกาศต่อ 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' สู้โควิดรอบที่ 5

เว็บไซค์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง การต่อ 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' สู้วิกฤติโควิด-19 เป็นรอบที่ 5 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 - 30 ก.ย. 2563

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 เว็บไซค์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 5) โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 4 ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2563

โดยที่รัฐบาลตระหนักถึงความจําเป็นที่จะต้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 เพื่อให้บรรดาสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการ แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถเปิดดําเนินการได้ และได้ดําเนินการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง เช่น การให้เปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษา และสถาบันกวดวิชาแบบครบจํานวน ครบห้องเรียน ครบชั้นเรียน การจัดการประชุม การอบรม การสัมมนา หรือการแข่งขันกีฬา และการขนส่งสาธารณะ

ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการที่จําเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค แต่การผ่อน คลายมาตรการต่างๆ ดังกล่าวนั้นทําให้ประชาชนจํานวนมากขาดความระมัดระวังตัว เช่นที่เคยปฏิบัติมา ซึ่ง มีความเสี่ยง อย่างมากที่จะเกิดการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนจนกลายเป็นการระบาดในวงกว้างต่อไปดังที่เกิดขึ้น ในหลายประเทศ

นอกจากนี้ ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ ยังคงเพิ่มมาก ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการผลิตวัคซีนป้องกันโรคก็ยังไม่ประสบความสําเร็จ จึงยังมีความจําเป็นต้องกําหนดให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลกลุ่มบุคคล สถานที่ กิจการ และกิจกรรมดังกล่าวให้เป็นไป อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข ของประเทศ และป้องกันมิให้ เกิดการระบาดระลอกใหม่ที่อาจมีความรุนแรงและสร้างความเสียหาย ให้แก่ระบบเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศในระลอกที่สองดังที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก จึงมีความจําเป็นต้องขยายระยะเวลาการประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง

เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ ฉุกเฉินดังกล่าวเป็นไปโดยมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ โดยมุ่งรักษาไว้ซึ่งความ ปลอดภัยในด้านสุขภาพและชีวิตของประชาชน เป็นสําคัญ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563 จึงให้ขยาย ระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สําหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้ บังคับต่อไปควบคู่กัน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2563 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2563