ม็อบปลดแอก เล็งพรึ่บทั่วประเทศ

ม็อบปลดแอก เล็งพรึ่บทั่วประเทศ

เลขาฯเยาวชนปลดแอก เผยเตรียมถกแกนนำ ยกระดับชุมนุม ก.ย.เล็งปักหลักค้างคืน-เดินขบวนทั่ว กทม.-ชุมนุมแนวร่วมพร้อมกันทั่วปท. ขณะที่ตำรวจออกหมายจับ 6 แกนนำเวทีธรรมศาสตร์จะไม่ทน ตั้ง 6 ข้อหา

ขณะที่ “นักเรียน” ชุมนุมปฏิรูปการศึกษา ชู 3 นิ้วหน้า ศธ."ณัฏฐพล” เจรจา รับปากเปิดเวทีผ่านสภานักเรียน

ภายหลังกลุ่มประชาชนปลดแอกได้จัดกิจกรรมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปเมื่อวันที่ 16 ส.ค. โดยมีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมจำนวนมาก ล่าสุดนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปลดแอก เปิดเผยว่า หากรัฐบาลยังไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องในสัปดาห์หน้า จะมีการหารือกันในระดับแกนนำ เพื่อกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหว และแนวทางในการยกระดับการชุมนุมซึ่งจะมีขึ้นในเดือน ก.ย.นี้

โดยแนวทางในการยกระดับนั้นมีความเป็นไปได้หลายรูปแบบ เช่น ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ เดินขบวนทั่วกรุงเทพฯ ชุมนุมพร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนเกณฑ์ในการตัดสินใจว่าจะเคลื่อนในรูปแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อม ทั้งในเรื่องของคน และทรัพยากรต่างๆ เช่น ห้องน้ำ เครื่องเสียง

“การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ามีแค่พลังของนักศึกษา ต้องมีภาคประชาชนเข้าร่วมด้วย ซึ่งในการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็มีประชาชนร่วมชุมนุมไม่น้อย จำนวนนักศึกษากับประชาชนน่าจะพอๆกัน ขณะที่กลุ่มนักเรียนก็เข้ามาร่วมมากขึ้น จากการประเมินสถานการณ์ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล จึงเชื่อว่าการชุมนุมในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้จะมีผู้ชุมนุมที่จะมาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทยมากกว่าวันที่ 16 ส.ค.อย่างแน่นอน” นายทัตเทพ กล่าว

มธ.นัดชุมนุมใหญ่19ก.ย.ท่าพระจันทร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งเคยจัดการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมประกาศจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ขึ้น ในวันที่ 19 ก.ย. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ขอหมายจับ6แกนนำเวที มธ.จะไม่ทน

พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี แถลงผลการรวบรวมพยานหลักฐานในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ลานพญานาค ‘#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน’ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์ ไว้ตามคดีอาญาที่ 2013/2563 ของ สภ.คลองหลวง เสนอแก่ศาลจังหวัดธัญบุรี ในการออกหมายจับแกนนำนักศึกษาทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย 1.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล 2.ภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก 3.อานนท์ นำภา 4.ณัฐชนน ไพโรจน์ 5.ธนวัฒน์ จันผลึก 6.สิทธิ์นนท์ หรือไฟช้อน ทรงศิริ โดยตั้ง 6 ข้อหา และยังมีผู้ที่อยู่ในข่ายที่จะต้องออกหมายจับเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ

ออกหมายเรียก“ไผ่ ดาวดิน”

ขณะที่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา' หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ภาพเอกสารออกหมายเรียกจาก สน.สำราญราษฎร์ ลงวันที่ 18 ส.ค. 2563 ในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ข้อหามั่วสุมและอื่นๆ รวม 7 ข้อหา ให้รายงานตัวที่ สน.ดังกล่าว วันที่ 28 ส.ค. เวลา 10.00 น.

นร.ชุมนุมเรียกร้องปฏิรูปการศึกษา

วันเดียวกันเวลา 16.00 น. ที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เยาวชนที่ใช้ชื่อว่า กลุ่มนักเรียนเลว และนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ นับร้อยคน ได้นัดหมายชุมนุม แสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วต่อต้านเผด็จการ พร้อมทั้งเป่านกหวีดขับไล่ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ

ต่อมาเวลา 16.40 น. นายณัฏฐพล ได้ออกมาพบกลุ่มนักเรียน โดยกลุ่มนักเรียนขอให้นายณัฏฐพล ไปต่อแถวข้างหลังนักเรียน และได้ตะโกนบอกว่า ผู้ใหญ่ที่กล้าสอนให้นักเรียนเข้าแถว แต่ทำไมตัวเองไม่เข้าแถว ถ้าต่อแถวไม่ได้ ก็ไม่ต้องฟัง ให้ลาออกไปเลย โดยนายณัฏฐพลยอมเดินไปท้ายแถว พร้อมนั่งลงกับพื้นที่ และอธิบายสถานการณ์ด้านการศึกษาให้นักเรียนบางส่วนฟัง

ส่วนกลุ่มนักเรียนได้มีการร้องเพลงแจว และเรียกร้องทั้งเรื่องไม่ต้องการแบบเรียนเหยียดเพศ ปฏิรูปการศึกษา ครูฟังเสียงนักเรียน ไม่จำกัดสิทธิเรื่องตัดผม ชุดนักเรียน นอกจากนี้นักเรียนบางส่วนได้ปราศรัยว่า จะลุกขึ้นสู้กับระเบียบและอำนาจมืด พร้อมทั้งมีการชูสามนิ้ว ประกาศ 3 ข้อ หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา และร่างรัฐธรรมนูญใหม่

รมว.ศธ.รับข้อเสนอ-เปิดเวทีสภานร.

ต่อมาเวลา18.00น. นายณัฏฐพล ได้เดินออกจากสถานที่ชุมชนของนักเรียน โดยกล่าวว่า พร้อมเปิดใจรับฟังปัญหาของนักเรียน และได้แสดงความจริงใจ ที่เดินไปหากลุ่มนักเรียนที่มาชุมนุม เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนมาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน เพียงแต่ไม่ได้มีการพุดคุยกับกลุ่มแกนนำ ประเด็นส่วนใหญ่ที่นักเรียนแสดงความคิดเห็น ต้องการเรื่องการพัฒนาการศึกษามากกว่าเรื่องการเมือง ยินดีที่เด็กๆใส่ใจอนาคตของตัวเอง ทั้งนี้จะมีการเปิดเวทีให้นักเรียนรับฟังผ่านกลไกสภานักเรียน

เปิดเวทีรับฟังนศ.20ส.ค.เริ่มระยอง

นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงการจัดเวทีเพื่อเปิดพื้นที่หารือกับคนรุ่นใหม่ ครั้งแรกวันที่ 20 ส.ค. ที่ จ.ระยอง โดยเป็นเวทีเฉพาะกิจก่อนเป็นลักษณะการรับฟังความเห็นระดับพื้นที่ จะมีนักเรียน นักศึกษากลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าร่วม 99 คน

ส่วนเวทีต่อไปจะเป็นการรับฟังความคิดเห็นของเยาวชนคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ กทม.เป็นแห่งที่ 2 หลังจากนั้นจะมากำหนดเวทีเชิงพื้นที่ในจังหวัดอื่นเพิ่มอีก โดยยังไม่ได้กำหนดความถี่ หรือจำนวนเวทีว่าจะจัดกี่ครั้ง และในพื้นที่ไหนบ้าง ต้องดูตามความเหมาะสม รวมทั้งในแต่ละพื้นที่จัดเวทีประเด็นไม่เหมือนกัน และจะพยายามให้เน้นว่าเยาวชนแต่ละจังหวัดจะมีความเห็นเกี่ยวกับพื้นที่ภูมิลำเนาของตนเองและอนาคตจังหวัดตนเองอย่างไร

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า สำหรับการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานของรัฐ เอกชน ประชาชน และเยาวชนทุกกลุ่มของกรุงเทพฯ จะจัดขึ้นวันที่ 2-3 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายกฯชี้ข้อเรียกร้องเด็กสูงปรี๊ดทำไม่ได้

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงข่าวถึงเรื่องม็อบเยาวชนว่า วันนี้อยากให้ทุกคนมองว่าเด็กคือพลังที่บริสุทธิ์ อาจจะมีส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจ ส่วนหนึ่งอาจจะถูกชักนำ ตนเห็นหัวข้อเรียกร้องมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลายข้อซึ่งมีความเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะทำให้เด็กมีความคาดหวัง ตนเห็นหลายสิบข้อที่ตามมา ยกเลิกการไหว้ครู ไม่ต้องเคารพครู พ่อแม่ก็ไม่ต้องเคารพ

“ผมถามว่าถ้าไม่ใช่ผมแล้วเป็นคนอื่นที่เข้ามา สิ่งที่มันเกิดขึ้นในลักษณะเช่นนี้ ในสถานการณ์แบบนี้ จะมีใครแก้ปัญหานี้ได้ต่อไป นั่นหมายความว่าประเทศเราก็ล่มสลาย แกนนำ หลักการต่างๆ ของประเทศชาติทั้งหมด ล้มไปทั้งหมด สถาบันครอบครัวล้ม สถาบันการศึกษา ครู ล้มหมด นี่หรือคืออนาคต” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ข้อเรียกร้องที่ทุกคนเรียนจบมาต้องมีงานทำเงินเดือน 5 หมื่นบาท มีที่ไหนทำได้ รวมถึงผ่อนรถให้ทุกคน เก็บภาษีเฉพาะคนรวย สิ่งเหล่านี้มันไม่มีความเป็นไปได้ ขอฝากไปถึงบรรดาสถานศึกษา ครู อาจารย์ แม้กระทั่งนักการเมือง ช่วยทำความเข้าใจด้วย

ไม่ห้ามชุมนุมโดยสันติ-ขออย่าอาฆาต

“เราไม่มีการห้ามการชุมนุม แต่ขอให้ชุมนุมโดยสันติ คำว่าสันติไม่ใช่เฉพาะแต่ในเรื่องการใช้อาวุธ หรือไม่ใช้อาวุธ ใช้ความรุนแรง การกล่าวด้วยความอาฆาตมาดร้าย ด่าหยาบคาย เหล่านี้ไม่เคยเกิดในสังคมไทย ผมไม่อยากให้ใครมาใช้ประโยชน์ในช่วงนี้ ในช่วงที่ประชาชนยังมีความอ่อนไหว การที่เรามาพูดถึงอนาคต คิดว่าเอาวันนี้ให้ผ่านก่อน ว่าเราจะเดินหน้าของเราอย่างไร”

ย้อนสื่ออังกฤษให้เข้าใจอัตลักษณ์ไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนต่างประเทศจากสถานีโทรทัศน์ Channel 4 ซึ่งเป็นทีวีสาธารณะของอังกฤษ ได้ถามพล.อ.ประยุทธ์ว่า การชุมนุมเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ในเรื่องของสถาบัน พวกคุณต้องเข้าใจว่าสถาบันกับประเทศไทยมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เพราะฉะนั้นจะไม่ตอบในประเด็นนี้ เพราะผมเองก็ไม่เคยไปก้าวล่วงต่างประเทศ ไม่เคยไปสนับสนุนการเมืองที่มาเคลื่อนไหวในประเทศไทยต่อต้านประเทศอื่น ไม่เคยสนับสนุนแบบนั้น ผมต้องดำเนินนโยบายการต่างประเทศอย่างสมดุล”