ปรับขึ้น

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ปรับขึ้น แนวต้าน 1336 / 1346 จุด แนวรับ 1321 / 1311 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเจรจาทบทวน Phase One Deal จีนกับสหรัฐฯ ถูกเลื่อนออกไป ช่วยลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก และอาจมีข่าวดีจากรายงานเศรษฐกิจไทย 2Q20E GDP เช้าวันนี้ (เป็นข่าวดีต่อหุ้นกลุ่มการเงิน หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์) ส่วนปัจจัยลบ คือ สถานการณ์การเมืองในประเทศ (กระแสการชุมนุมกลุ่มเยาวชนปลดแอก เพิ่มความเสี่ยงลบใหม่ต่อตลาดหุ้นไทย)

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

       1) การเจรจาทบทวน Phase One Deal ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ถูกเลื่อนออกไป เพื่อให้เวลาจีนสั่งซื้อสินค้าเพิ่มตามเป้า (+กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์)

       2) สภาพัฒน์รายงานตัวเลข 2Q20E GDP ไทยวันนี้ (+กลุ่มธนาคาร หากรายงานดีกว่าคาดการณ์)

       3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าช้าออกไปอีกหลายสัปดาห์ จากเกมทางการเมืองเพื่อหวังผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (-การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ)

       4) UK ประกาศมาตรการกักตัว 14 วัน ต่อผู้เดินทางจากประเทศสมาชิกอียู (ฝรั่งเศส สเปน) เพิ่มเติม มีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (-โมเมนตัมเชิงลบต่อกลุ่มท่องเที่ยว)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

USA-พรรคเดโมแครตจัดงานประชุมพรรคที่รัฐวิสคอนซินนวันที่ 17-20 ส.ค. / Thailand-รายงาน 2Q20E GDP คาด -13.3% YoY -11.4% QoQ (Vs 1Q20 -1.8% YoY -2.2% QoQ) / Japan-รายงาน 2Q20E GDP ครั้งที่สอง คาด -7.6% QoQ (Vs 1Q20 -0.6% QoQ) / USA-NAHB housing market index เดือน ส.ค. คาด 73 (Vs เดือน ก.ค. 72)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดร่วง: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง ตลอดการซื้อขายก่อนมาปิดที่ระดับ 1327.05 จุด -19.64 จุด-1.46% วอลุ่มลดลงเป็น 5.8 หมื่นล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -3.67% ขนส่งและโลจิสติกส์ -3.12% ธนาคาร -2.75% โดยหุ้นบวก >4% JMART UTP AI BWG S11 VCOM TSR NOBLE ส่วนหุ้นร่วง >4% STGT AOT SCB NER DELTA ASIAN IIG YGG TSE CFRESH SEAFCO

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ DJ +0.12% S&P500 -0.02% Nasdaq -0.21% เนื่องจากตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ +1.2% MoM Vs คาด +1.9% MoM บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอลง ทำให้วิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และไม่มีความคืบหน้าเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบต่อเนื่อง DAX -0.71% CAC40 -1.58% FTSE -1.55% วิตกการระบาดของ COVID-19 หลังจาก UK ประกาศมาตรการกักตัวผู้เดินทางจากฝรั่งเศส 14 วัน ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป ต่อจากสเปน เบลเยี่ยม ที่ประกาศไปก่อนหน้าแล้ว

- น้ำมันดิบและทองคำปิดร่วง: น้ำมันดิบปิดร่วง WTI -USD0.23 ปิดที่ USD42.01/บาร์เรล (+1.9% WoW) Brent -USD0.16 ปิดที่ USD44.80/บาร์เรล (+0.9% MoM) วิตก EIA ลดความต้องการน้ำมันดิบปีนี้ลง 1.4 แสนบาร์เรล เป็น 91.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนทองคำกลับมาดิ่งแรง -USD20.6 ปิดที่ USD1,949.80/ออนซ์ เนื่องจากการหันไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล หลังจากยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ประเภท 10 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 8 สัปดาห์ที่ 0.69% (Vs สัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ 0.56%)

ประเด็นสำคัญ

+/- 2Q20E GDP ไทย: กรณีที่สภาพัฒน์รายงาน2Q20E GDP ไทยดีกว่าคาดการณ์ (BB Consensus สำรวจ 12 นักเศรษฐศาสตร์ อยู่ที่ -12% ถึง -17.2% YoY) รวมถึงรัฐบาลจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เป็นปัจจัยบวกต่อการปรับเพิ่มเป้าหมายเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้สูงขึ้น (Krungthai Compass -8.8% ธปท. -8.1%)

+ USA/China Phase One Deal : การเจรจาทบทวนระหว่างรองนายกฯ จีน หลิวเหอ และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไฮต์ไลเซอร์ ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งเผย สหรัฐฯ ต้องการให้เวลาเพิ่มเติมต่อจีนในการสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มเติมตามที่ตกลง

- การเมือง: การเรียกร้องจาก 3 ข้อ เป็น 10 ข้อ ซึ่งบางข้ออาจจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก กลายมาเป็นประเด็นลบใหม่ต่อตลาดหุ้นไทย

- ผลกระทบจาก EX-Dividend Effect: สัปดาห์นี้ คาดว่าจะส่งผลลบต่อดัชนีฯ -1.59 จุด นาโดย ADVANC INTUCH

- USA: ยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. แย่กว่าคาด +1.2% MoM (Vs คาด +1.9% MoM และเดือน มิ.ย. +8.4 % MoM)

- SET: หลักทรัพย์ที่ติด Cash Balance วันที่ 17 ส.ค. - 14 ก.ย. ได้แก่ YGG IP

+ ไก่ส่งออก: ฟิลิปปินส์ประกาศห้ามนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิลเป็นการชั่วคราว โดยไม่ได้ระบุว่าคาสั่งห้ามดังกล่าวจะสิ้นสุดเมื่อใด

แนะนำ ขายเมื่อรีบาวด์ เพื่อรอซื้อคืนที่แนวรับ (โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BEM PSL MINT

หุ้นแนะนำเก็งกำไรวันนี้: GPSC INTUCH BJC PTL CPF TASCO

Derivatives: ทยอยปิดสถานะ Short S50U20C900 และปิด Short S50U20P850 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)