LPH - ถือ

LPH - ถือ

ผลประกอบการ 2Q63: แย่กว่าที่คาดไว้

Event

ผลประกอบการ 2Q63

lmpact

ผลประกอบการ 2Q63 น่าผิดหวังเพราะบริษัทในเครือ

LPH ขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาทใน 2Q63 จากที่มีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาทใน 2Q62 และ 43 ล้านบาทใน 1Q63 โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ 2Q63 ได้แก่ การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ลงทุนเอาไว้ ทำให้เกิดค่าใช้จ่าย และภาษีเพิ่มขึ้นในงบการเงินรวม ทั้งนี้ในงบเดี่ยวของ LPH กำไรสุทธิใน 2Q63 อยู่ที่ 31.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 19.4 ล้านบาทใน 2Q62 ในขณะที่กำไรสุทธิของ LPH ใน 1H63 อยู่ที่ 38 ล้านบาท ลดลง 29.1% YoY และคิดเป็น 34% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเราที่ 110 ล้านบาท รายได้ของ LPH ใน 2Q63 อยู่ที่ 389 ล้านบาท (+1.6% YoY, -7.8% QoQ) ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 19.7% จาก 22.3% ใน 2Q62 และ 26.9% ใน 1Q63 เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่ชำระเงินสดลดลงในช่วงที่เกิดโรคระบาด และมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากบริษัทในเครือ (ได้แก่ AMARC และโรงพยาบาลเอเซีย) นอกจากนี้ สัดส่วน SG&A/ยอดขายของ LPH ก็เพิ่มขึ้นเป็น 20.0% จาก 17.5% ใน 2Q62 และ 16.0% ใน 1Q63 เนื่องจากค่าใช้จ่าย และภาษีของบริษัทในเครือเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทแจ้งในรายงาน MD&A ว่ารายการนี้เป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ผลประกอบการ 3Q63 จะดีขึ้น QoQ

เรามองบวกกับแนวโน้มผลประกอบการ 3Q63 เนื่องจาก i) เป็นช่วง high season ของบริการรักษาพยาบาล และ ii) มีอุปสงค์ pent-up demand ที่อั้นมาจากช่วงที่เกิดโรคระบาดใน 1H63 เราคาดว่าผลกระทบกระทบจะถูกชดเชยไปบางส่วนจากการที่สำนักงานประกันสังคมปรับขึ้นอัตราค่ารักษาพยาบาล (>40% ของรายได้รวมของโรงพยาบาลในปี 2563)

คงประมาณการปี 2563 เอาไว้เท่าเดิม โดยไม่มี upside ตามที่เคยคาดไว้

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 เอาไว้ที่ 110 ล้านบาท (ทรงตัว YoY) และปี 2564 ไว้ที่ 127 ล้านบาท (+15.6% YoY) ทั้งนี้ เมื่อดูจากผลประกอบการ 1H63 เราคิดว่าประมาณการกำไรปีนี้ของเราไม่มีupside เหมือนที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มดีขึ้น YoY ใน 2H63

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ที่ 5.70 บาท (ใช้ WACC ที่ 8% และ TG ที่ 3.0%)

Risks

การแทรกแซงของภาครัฐ ปัญหาเสถียภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย เกิดเหตุก่อการร้รายครั้งใหญ่.