ครม.ทุ่มงบกลางกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม 76 จังหวัด 

ครม.ทุ่มงบกลางกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม 76 จังหวัด 

ครม.เคาะงบกลางเพิ่มเติมกรณีฉุกเฉินกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม 76 จังหวัดจังหวัดทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะฝนทิ้งช่วงและพายุซินลากู หวังช่วยการจ้างแรงงานท้องถิ่น กระตุ้นการท่องเที่ยว-เกษตร-วิสาหกิจชุมชน 

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (13 สิงหาคม 2563) ได้เห็นชอบสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563  งบกลาง ในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น จำนวน 11,893 ล้านบาท สำหรับใช้ในการดำเนินโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 14 โครงการ 15 หน่วยงาน เพิ่มเติมจากที่ได้รับอนุมัติไว้แล้ว 3 ครั้ง รวมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในด้านที่ 5 การพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามที่ สทนช. เสนอ เพื่อสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งเป็นแผนงานที่มีสถานะพร้อมดำเนินการได้ทันที ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แล้ว

สำหรับแผนงานที่ได้รับงบกลางดังกล่าวในการดำเนินงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 8 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ จำนวน 2 แห่ง
  2. โครงการปรับปรุงคลองเปรมประชากร จำนวน 2 แห่ง
  3. โครงการพัฒนาหนองเล็งทราย จังหวัดพะเยา จำนวน 2 โครงการ
  4. โครงการซ่อมแซมอาคารชลประทานที่เสียหายเนื่องจากอุทกภัย จำนวน 83 รายการ
  5. โครงการขุดบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ลักษณะเป็น Deep Pool จุดที่ 4
  6. โครงการจัดหาเรือกำจัดวัชพืช จำนวน 50 รายการ
  7. โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยเหยี่ยน พร้อมระบบระบายน้ำท้ายอ่างเก็บน้ำ
  8. โครงการขุดลอกลำน้ำอิงตอนบนพร้อมอาคารประกอบ

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย โดยการสนับสนุนกว่า 10 หน่วยงาน จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 18,927 รายการ
  2. โครงการจัดหาครุภัณฑ์เรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 805 ลำ

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการเติมน้ำใต้ดินในพื้นที่ตำบลทั่วประเทศ จำนวน 1,000 แห่ง
  2. โครงการจัดหาครุภัณฑ์ชุดเจาะสำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล จำนวน 10 ชุด

กองทัพบก กระทรวงกลาโหม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการขุดลอกแก้มลิงภายในชุมชนรถไฟ

กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดหาครุภัณฑ์เรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 17 รายการ

“แม้ว่ารัฐบาลได้สนับสนุนงบกลางเพื่อช่วยเหลือภัยแล้ง ปี 63 ไปแล้ว 3 ครั้ง แต่จากสภาวะฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำ และอ่างเก็บน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับประชาชนในภาคอุตสาหกรรมอพยพกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรทั้งนอกและในเขตชลประทานมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นซินลากู เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่

แต่ในขณะเดียวกันก็ยังพบว่ามีหลายพื้นที่ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอยู่ สทนช. ได้ประสานกระทรวงมหาดไทย เพื่อวิเคราะห์และกลั่นกรองแผนงาน/โครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่ามีแผนงานโครงการที่ต้องดำเนินการเพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในปัจจุบันสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที จำนวน 14 โครงการ จาก 15 หน่วยงาน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถเก็บกักน้ำในฤดูฝน ปี 2563 และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการลงทุนภาครัฐโดยการช่วยกระตุ้นการซื้อวัสดุและจ้างแรงงานคนในท้องถิ่น ด้านการท่องเที่ยว ด้านเกษตร ด้านการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนได้อีกด้วย

ทั้งนี้ สทนช. จะติดตามและประเมินผลการดำเนินงานที่ได้รับงบกลางในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาด้านน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง” เลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย