สาว 'เบนซ์ป้ายแดงชนดะ' ขอโทษ! เครียดธุรกิจถูกอายัดเงินล้าน-ตร.ตรวจสารเสพติด
ฮอตโซเชียล! สาวคลั่ง "เบนซ์ป้ายแดงชนดะ" ขอโทษ! เครียดธุรกิจถูกอายัดเงินล้าน-ตร.ตรวจสารเสพติด
วันนี้ (12 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ พลตำรวจตรี พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวภายหลังการสอบปากคำ น.ส.วิชุดา อายุ 37 ปี ผู้ขับรถเบนซ์ ทะเบียนป้ายแดง กทม. เฉี่ยวชนรถและจักรยานยนต์ผู้อื่น เรื่อยมาตั้งแต่แยกแคราย จ.นนทบุรี จนมาหยุดรถที่ย่านเตาปูน ก่อนตำรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าสูงถึง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ว่า จากการสอบถาม น.ส.วิชุดา ระบุว่าตนเองมีความเครียดเรื่องธุรกิจ ก่อนขับรถออกจากบ้าน เวลา 21.00 น. วันที่ 11 ส.ค. แล้วไปดื่มสุรา ก่อนสามีจะออกมาตามหา
กระทั่ง น.ส.วิชุดา ไปขับรถชนแถวแยกแคราย เวลา 22.00 น.จนมีคู่กรณีขี่รถจักรยานยนต์ตามมาจนถึงช่วงถนนพหลโยธิน ซึ่งตำรวจได้รับแจ้งผ่านวิทยุจึงเข้าสกัดจับแต่ไม่เป็นผล ซ้ำยังถูกรถเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนที่ น.ส.วิชุดา จะขับรถวนไปย่านลาดพร้าวแล้วเข้าไปแถวเตาปูนแมนชั่น 2 รอบ จนมีญาติที่อยู่ในละแวกนั้นมาห้ามจึงหยุดรถไว้ได้
พลตำรวจตรี พัฒนา กล่าวต่อว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุที่หนีเพราะตกใจและความเครียด โดยช่วงเที่ยงวันนี้จะนัดผู้เสียหาย 3-4 รายในพื้นที่ บก.น.2 มาสอบปากคำอีกครั้ง โดยจะส่ง น.ส.วิชุดา ไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
และในวันพรุ่งนี้(13 ส.ค.) จะคุมตัวส่งศาลอาญา ดำเนินคดีข้อหา 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.เป็นผู้ขับขี่รถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น 2.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3.ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ 4.ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นในท้องที่อื่นท้องที่จะอายัดตัวดำเนินคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.วิชุดา ขึ้นรถตู้ตำรวจนำส่งไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย และสารอื่นๆ รวมถึงตรวจอาการบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำผลตรวจมาประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
ด้าน น.ส.วิชุดา เปิดเผยว่า ตนมีปัญหาเป็นคดีฟ้องร้องกับหุ้นส่วนบริษัทแห่งหนึ่งจนถูกอายัดเงิน 1 - 2 ล้านบาทไว้ไม่สามารถใช้เงินได้ ทั้งที่แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าจึงเกิดความเครียดแล้ว เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ฝากขอโทษไปยังคนเจ็บและผู้เสียหายทุกรายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนที่ตนขับรถหลบหนีนั้นเป็นเพราะกลัวว่าคู่กรณีที่มีปัญหาก่อนหน้านี้จะตามมาทำร้าย
