เคลียร์! คน ‘ระยอง’ เดินทางข้ามจังหวัดได้ ไม่ต้องกักตัว 14 วัน

เคลียร์! คน ‘ระยอง’ เดินทางข้ามจังหวัดได้ ไม่ต้องกักตัว 14 วัน

ไขประเด็นคาใจ คนระยอง และกรุงเทพฯ เดินทางข้ามจังหวัดจะต้องกักตัว 14 วันหรือไม่? โฆษก ศบค. มีคำตอบเคลียร์ชัด

ถือเป็นช่วงสัปดาห์ที่ชาวระยอง และคนกรุงเทพฯ น่าจะตื่นตกใจกันพอสมควร สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 กลับกลายเป็นความกังวลของประชาชนคนไทยอีกครั้ง หลังจากพบบุคคลต่างชาติติดโควิด-19 เข้ามาในประเทศ 2 ราย และไม่ได้อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ โดยเข้ากฎเกณฑ์ข้อยกเว้น หรือที่สังคมเรียกว่า กลุ่ม VIP โดยไม่มีการกักตัว และมีการเดินทางออกนอกที่พัก จนสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในพื้นที่ระยองและกรุงเทพฯอย่างมาก และอาจกระทบต่อการเดินทางข้ามจังหวัด โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว 25-28 ..2563

ซึ่งเคสแรกเป็นทหารอียิปต์ที่เข้ามาพร้อมกับคณะ รวม 31 คน ลงเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา มีการประสานงานจองห้องพักด้วยบริษัทสายการบินภาคพื้น โดยสถานทูตเป็นผู้เลือกที่โรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง เมื่อไล่เรียงจากไทม์ไลน์การเดินทาง พบว่าเดินทางหลายพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ เช่น กรุงไคโร ยูเออี, ปากีสถาน, จีน, ห้างแหลมทอง (ห้างแพชชั่น) และห้างเซ็นทรัล ระยอง และเดินทางกลับอียิปต์

อีกหนึ่งเคส เป็นลูกสาวของอุปทูตซูดาน อายุ 9 ขวบ ติดโควิด-19 ที่เดินทางเข้ามากับคณะทูต และได้เข้าพักที่คอนโดมิเนียม One X ที่สุขุมวิท 26 แต่ไม่พบการเดินทางไปที่ใด

ซึ่งเมื่อมีการตรวจพบแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รุดตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว และรีเช็คจากแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ที่ภาครัฐได้ออกแบบมาเพื่อไว้ติดตามตัวบุคคลเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโคโรน่า โดยจะให้สแกนเมื่อเข้าและออกสถานที่ต่างๆ จากทั้ง 2 เคส พบมีผู้มีที่มีความเสี่ยงตั้งแต่น้อยไปมาก ที่เข้าไปใช้บริการพื้นที่ดังกล่าวในวันและเวลาดังกล่าว มากกว่า 1,400 คน ซึ่งผลตรวจพบว่าไม่ติดเชื้อ

ทั้งนี้ทำให้เกิดข้อกังขา และระมัดระวังการเดินทางข้ามจังหวัด จากกรุงเทพฯ และ ระยอง โดยเฉพาะระยอง ซึ่งมีจำนวนผู้มีความเสี่ยงสูง (12ราย) ซึ่งมากกว่าเคสลูกอุปทูตซูดาน ที่มีผู้มีความเสี่ยงสูง 5 ราย

อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเป็นข้อสงสัยว่า.. ประชาชนยังสามารถเดินทางได้ตามปกติหรือไม่ โดยเฉพาะจาก จ.ระยอง และหากเดินทางออกนอกจังหวัดแล้ว ต้องมีการกักตัว 14 วันหรือไม่อย่างไร ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) อธิบายระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 17 ก.ค.63 ในประเด็นการเดินทางข้ามจังหวัดของคนระยองและ กทม.ว่า ขณะนี้ยืนยันว่าการกักตัว 14 วันนั้น เกิดขึ้นเฉพาะแค่ 12 คน นอกนั้นความเสี่ยงต่ำก็อยู่ที่บ้านเฉยๆ ทำงานได้ ไม่ต้องทำอะไรที่มากไปกว่านี้ รวมถึงคนที่บอกว่าออกมาจากระยองและกลับบ้านตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดทางอีสานหรือเหนือ แล้วมาเจอกับข้อจัดการของแต่ละจังหวัดที่แตกต่างกัน จังหวัดสั่งมาว่าจะต้องกักตัวอย่างนั้นอย่างนี้

"ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ทางปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งการแล้ว และไม่ได้บอกให้ไปกักตัวเลย แต่ขอให้ทางจังหวัดแต่ละจังหวัดได้ประชุมโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการโรคติกต่อจังหวัด และมีเลขาฯ คือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้มีการพูดคัยกัน ดังนั้นจังหวัดอื่นๆ ถ้ามีระบบไทยชนะ หรือระบบลงชื่อเข้าเมืองอยู่แล้ว ก็ใช้ระบบนั้นไป และมีระบบ อสม. ก็เพียงเท่านั้น ก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ ก็ใช้ชีวิตตามปกติได้เลย" 

ทั้งนี้ 12 คนที่ต้องกักตัว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงนั้น คือผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีหารอียิปต์ที่เดินทางเข้ามาในไทย โดยได้รับสิทธิ์ในการยกเว้นการกักตัว 14 วัน ที่พักอยู่ที่โรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง ได้แก่ พนักงานขับรถตู้รับ-ส่งไปยังโรงแรม 4 คัน ทั้งหมด 4 คน ผู้จัดการและพนักงานขายโรงแรมดีวารี 3 คน แม่บ้านทำความสะอาด 4 คน และงคนขับรถแท็กซี่อีก 1 คน รวมทั้งหมด 12 คน 

ขณะนี้ทั้ง 12 คนที่สัมผัสเสี่ยงสูงนี้ ผลตรวจในเบื้องต้นเป็นลบทั้งหมด แล้วทั้งหมด 12 คน ต้องกักตัว 14 วัน นอกจากนั้นคนที่มีอยู่ในสถานที่ที่อื่นที่มหารได้เดินทางไปทั้งห้างแหลมทองและเซ็นทรัลระยองเป็นการตรวจโดยสมัครใจ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผลการตรวจออกแล้วมีผลเป็นลบ คือ ไม่พบเชื้อ 

นอกจากนี้กรรีของลูกอุปทูตซูดาน พบผู้มีความเสี่ยงสูง 7 คน ได้แก่ สมาชิกในครอบครัว 5 คน และเจ้าหน้าที่สถานทูต 2 คน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ แต่ยังต้องกักตัว 14 วัน ขณะที่ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ 24 คน และมีลูกบ้านในคอนโดมิเนียมวัน เอ็กซ์ 346 คน ก็เข้ารับการตรวจแล้ว ทั้งนี้ผู้มีความเสี่ยงสูง 7คน ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีเชื้อ แสดงว่าไทยยังปลอดเชื้ออยู่