ถึงไทยแล้ว 'รถไฟฟ้าไร้คนขับ' เชื่อมอาคารผู้โดยสาร

ถึงไทยแล้ว 'รถไฟฟ้าไร้คนขับ' เชื่อมอาคารผู้โดยสาร

ทอท.รับมอบรถไฟฟ้าไร้คนขับขบวนแรก คาด “ซีเมนส์” ทยอยส่งครบ 6 ขบวนภายในปีนี้ หวังเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสาร และแซทเทิลไลท์ รับโควิด -19 กระทบทดสอบระบบให้บริการเลื่อนเปิดอาคารปี 2565

รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า วันนี้ (15 ก.ค.) บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ได้ส่งมอบรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ขบวนแรก เพื่อนำมาทดสอบระบบก่อนให้บริการเชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) ซึ่งหลังจากนี้จะมีการทยอยส่งมอบขบวนรถดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ครบจำนวน 6 ขบวนภายในปีนี้

สำหรับรถไฟฟ้า APM 1 ขบวน จะมี 2 ตู้ รวมเป็น 12 ตู้ ใช้ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตร(กม.)ต่อชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 210 คนต่อขบวน หรือประมาณ 6 พันคนต่อชั่วโมง โดยจะวิ่งใต้ดินให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน กับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (แซทเทิลไลท์) ระยะทางเกือบ 1 กม. ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีต่อเที่ยว

ในส่วนของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 มีความคืบหน้าในการดำเนินงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) 88% ปัจจุบัน ทอท. ดำเนินงานโครงสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินงานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน งานภูมิทัศน์ และติดตั้งงานระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ไฟฟ้า เครื่องกล สุขาภิบาล และระบบสารสนเทศภายในอาคาร

ขณะที่ ผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทำให้ภาพรวมการทดสอบการเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการ (Operation Readiness and Airport Transfer : ORAT) สำหรับอาคาร SAT-1 ต้องเลื่อนออกไป จนถึง เม.ย. 2565 เช่น ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) ระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ระบบบริหารลานจอดอากาศยาน ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เป็นต้น

นอกจากนี้ ทอท.ยังคาดการณ์ว่าเที่ยวบินและผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จนกลับมาเป็นปกติ (ที่ระดับเดิมของปี 2562) ในเดือน ต.ค.2565 

ดังนั้น ทอท.อาจต้องพิจารณาการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ภายในปี 2565 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเดิมที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2563

ทั้งนี้ ความคืบหน้าของการก่อสร้างแต่ละสัญญา แบ่งออกเป็น สัญญา CC1/1 งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ (SAT1) ชั้น B2, B1 และชั้น G ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) ซึ่งผู้รับเหมา คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 100%

159472986054

สัญญา CC1/2 งานอาคารแซทเทิลไลท์ ชั้น 2-4 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) กลุ่มกิจการร่วมค้า PCS ที่ประกอบด้วย บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับเหมา ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้า 92.55%

ด้านสัญญา CC2/1 งานก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถ ด้านทิศตะวันออก โดยมีบริษัท พระราม 2 การโยธา จำกัด เป็นผู้รับเหมา คืบหน้าไปแล้ว 29.97% ซึ่งตามแผนจะพัฒนาอาคาร 2 ส่วน ด้านหน้าเป็นอาคารสำนักงานสูง 4 ชั้น ส่วนด้านหลังเป็นอาคารจอดรถ สามารถจอดรถยนต์ได้ 1,000 คัน

159472988265

ส่วนสัญญา CC3 งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เป็นผู้รับเหมา ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 97.35% เช่นเดียวกับสัญญา CC4 งานซื้อพร้อมติดตั้งงานระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ทาง ILINK ได้ร่วมมือกับรถไฟฟ้าของบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ในการจัดหาระบบรถไฟฟ้ารุ่น Airval สำหรับใช้เชื่อมต่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลักกับอาคารแซทเทิลไลท์ปัจจุบันภาพรวมงานคืบหน้าไปแล้ว 67.95%

และสัญญา CC5 งานซื้อพร้อมติดตั้งงานระบบสาธารณูปโภคสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และงานระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) ขาออก นิติบุคคลร่วมทำงานล๊อกซเลย์ – แอลพีเอส ปัจจุบันคืนหน้าไปแล้ว 67.99%