ยึดอาวุธสงครามโยงการเมือง 'จักรทิพย์' ปัดจัดฉากหวังสกัดม็อบ 'ประวิตร' โยนจนท.สอบ

ยึดอาวุธสงครามโยงการเมือง 'จักรทิพย์' ปัดจัดฉากหวังสกัดม็อบ 'ประวิตร' โยนจนท.สอบ

“ประวิตร” โยนเจ้าหน้าที่สอบยึดอาวุธสงครามโยงกลุ่มเคลื่อนไหว “จักรทิพย์” ฟันธงประเด็นการเมือง ด้านฝ่ายค้านล็อกเป้าถล่มงบ 64 ชำแหละศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่กมธ.สภาฯ จี้นายกฯชี้แจงพ.ร.ก.กู้เงิน ชี้ฝ่ายการเมืองต้องถูกตรวจสอบ

ท่าทีฝ่ายความมั่นคงดูเหมือนว่าจะพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการเมือง หลังจากกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 346 อ.แม่สอด จ.ตากตรวจยึดอาวุธสงครามได้จำนวนมาก

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ และยังไม่ทราบที่มาของอาวุธดังกล่าวว่ามาจากในประเทศหรือนอกประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านและกลุ่มนักศึกษามองว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ นายณอน บูรณะหิรัญ พิธีกร และนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ หรือไลฟ์โค้ชชื่อดัง ชื่นชมว่าเป็นคนใจดีว่า เป็นเรื่องความคิดเห็นส่วนบุคคล และตอนที่ไปปลูกป่าร่วมกันก็ไม่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว เพราะภายในงานคนมีเป็นจำนวนมาก และก็จำไม่ได้ ส่วนที่นายณอนถูกวิพากษ์วิจารณ์จนยอดคนติดตามในโลกโซเชียลมีเดียหายไปกว่า 1 ล้านคน ตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ใจดีจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แล้วแต่คนจะมอง

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายความมั่นคงมีระบุอาจเชื่อมโยงกับการค้าอาวุธที่ส่งให้ชนกลุ่มน้อยนั้น ตนมองว่ามันก็อยู่ในวังวนนี้ แต่ประเด็นต่างๆ ก็ยังยืนยันว่าเรื่องการเมืองเป็นหลัก ส่วนจะเป็นการแลกเปลี่ยนเรื่องยาเสพติด ตรงนั้นอาจเป็นแนวคิดของผู้สื่อข่าว ตนไม่ได้ห้าม แต่จะนำไปพิสูจน์ทราบ

ดราม่า“ฌอน” อัลฟอลโล่นับล้าน

ส่วนความเคลื่อนไหวหลัง นายฌอน บูรณะหิรัญ พิธีกรและนักสร้างแรงบันดาลใจหรือ ไลฟ์โค้ชชื่อดังในโลกออนไลน์ เจ้าของเพจ Sean Buranahiran – ฌอน บูรณะหิรัญ ที่มีคนติดตาม 3.1 ล้านคน โพสต์คลิปโครงการปลูกต้นไม้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้โครงการ Climate Festival @North ที่ได้ร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตร

พร้อมระบุตอนหนึ่งในลักษณะชื่นชม “ได้เจอท่านประวิตร มันไม่เหมือนที่เราเห็นในรูปภาพที่อยู่ในมีม (MEME หรือ ภาพล้อเลียน) ที่เขาหลับและภาพที่ออกมาดูร้ายหน่อย แต่พอได้เห็นตัวจริง เหมือนผู้ใหญ่ที่น่ารัก มันทำให้ผมนึกออกว่า สิ่งที่เราเห็นในสื่อ เขามีเจตนาที่จะทำให้เราคิดอะไรบางอย่าง อย่าเพิ่งตัดสินใคร จนกว่าเราจะได้เจอเขาจริง ๆ ได้คุยกับเขาและสัมผัสกับเขา”

กลายเป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางซึ่งล่าสุดมีผู้ติดตามที่มีการอัลฟอลโล่ไปกว่า 1ล้านคน 

“ฌอน” เมินบูลลี่-สอนวิธีรับมือ

วันเดียวกันเจ้าตัวโพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า “The Greatest Revenge” The 4th installment of a 12 poem series

1. Human Zoo (6 Million plays)  2. Dear Soulmate (7 Million plays) 3. Tears at a Funeral (3 Million plays)

4. The Greatest Revenge 5. (Premiering on August 1st)

โพสต์ดังกล่าวมีเนื้อหาสรุปว่า ถ้าคุณเคยถูกบูลลี่ หรือการรังแกผู้อื่นทางวาจาและร่างกาย โปรดฟัง ทั้งนี้ ฌอน ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับตนเองแต่อย่างใด

ฝ่ายค้านล็อกเป้าถล่มงบศาล

ส่วนความเคลื่อนไหวก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564ที่จะเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค.

นายสุทิน คลังแสงส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ส.ส.ฝ่ายค้านมีผู้แสดงเจตจำนงอภิปรายกว่า 120 คน และอาจมีเพิ่มหลังจากนี้ ทั้งนี้ยอมรับว่ามี ส.ส.หลายคนถามถึงการจัดสรรงบประมาณให้ศาลรัฐธรรมนูญ ที่อ้างว่ายังไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งที่ผ่านมายังคงติดใจการรับงบประมาณของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีสมาชิกหยิบยก ประเด็นนี้ขึ้นมาอภิปราย

นายสุทิน กล่าวว่า ขณะเดียวกันเห็นว่าการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2564 ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แม้จะให้ข้าราชการจัดทำงบประมาณมาแต่ก็ไม่ได้สนองต่อประชาชน จึงเป็นการจัดงบประมาณที่ข้าราชการอยากทำ แต่ประชาชนไม่ได้อยากได้ นอกจากนี้ยังติดใจเรื่องการจัดทำงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะการใช้งบประมาณจาก 3 ก้อนที่ใช้ดำเนินการซ้ำซ้อนไม่สัมพันธ์กัน คือ งบประมาณตาม พ.ร.บ.โอนงบฯ 2563 งบตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ64 แม้จะเชิญสำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้ มาชี้แจงแล้วแต่ยังไม่กระจ่างชัด

คาดก.ย.ผ่านวาระ3พ.ร.บ.งบ64

จากการหารือกับประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)แล้ว กำหนดตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 64 จำนวน 72 คน มีกรอบเวลาศึกษา 80-90 วัน โดยจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 2 และวาระ3 ช่วงประมาณเดือนก.ย. นี้ อย่างไรก็ตามเห็นว่าเป็นกรอบเวลาที่มีข้อจำกัด จึงอยากฝากต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือ นักการเมืองรุ่นต่อไปว่าขอให้ ให้เวลาในการอภิปรายและพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯที่มากขึ้นกว่านี้

นายสุทิน กล่าวต่อว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าโลกเปลี่ยนไปมาก ส.ส.ทุกคนต้องปรับตัวตามโลก แต่รัฐบาลกลับไม่ปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณ และยังมีงบประมาณในส่วนของงบบูรณาการให้จังหวัดที่สมาชิกยังคงติดใจ เพราะงบประมาณ 2564 เป็นงบที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2562 แต่มีปรับเปลี่ยนตอนมีโควิด 19 เข้ามา และยังติดใจงบบูรณาการ งบจังหวัด ที่เดิมจัดสรรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ แต่ก็จัดงบมาไว้ที่ส่วนกลาง ถือเป็นความซ้ำซ้อนระหว่างงบกลางกับงบจังหวัด เช่น ทำถนนหลวง เป็นต้น

ฝ่ายค้านจี้เชิญนายกฯแจงพ.ร.ก.

ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวันส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับกรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการ

ตอนหนึ่งของการประชุมนายอดิศร เพียงเกษ กมธ.สัดส่วนฝ่ายค้าน กล่าวว่า คณะกมธ.วิสามัญคณะนี้ควรเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มาตอบคำถามและเสนอวิสัยทัศน์ต่อคณะกมธ.เพราะควรต้องตรวจสอบฝ่ายการเมืองคือนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่แค่ไปตรวจสอบข้าราชการในหน่วยงานต่างๆเท่านั้น เพราะเป็นเพียงกลไกที่นายกรัฐมนตรีสั่งการมา

ต่อมา นายอดิศรได้ขอให้มีการลงมติ แต่นายไพบูลย์ พยายามตัดบทและสรุปว่า จะพิจารณาโดยกำหนดกรอบการพิจารณาแค่พระราชกำหนด 3 ฉบับก่อน ส่วนเรื่องขอบเขตว่าจะครอบคลุมไปถึง พ.ร.บ. โอนงบหรืองบส่วนอื่นๆหรือไม่ ต้องพิจารณาตรวจสอบ พ.ร.ก. กู้เงินทั้ง 3 ฉบับให้เสร็จก่อน

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กมธ.กล่าวว่า กมธ.ควรต้องตรวจสอบงบกลางที่ได้รับโอนย้ายมาจากงบประมาณปี 2563 ด้วย เพื่อให้ครอบคลุมงบทั้งหมด กมธ.วิสามัญชุดนี้ควรต้องมีอายุมากกว่า 120 วัน เพื่อให้เป็นการตรวจสอบติดตามในระยะยาว เพื่อดูประสิทธิผลด้วย เพราะ พ.ร.ก.กู้เงินให้อำนาจรัฐบาลกู้เงินถึงก.ย. 2564

กมธ.ไล่บี้สอบคุณสมบัติ“ธรรมนัส”

ส่วนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากกรณีที่เคยต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในประเทศออสเตรเลีย ว่า กมธ.ได้เชิญ 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ทั้ง 2 หน่วยงานส่งเพียงเจ้าหน้าที่มาชี้แจงเท่านั้น

ทั้งนี้ ทาง ป.ป.ส.ได้ให้ข้อมูลค่อนข้างเป็นประโยชน์เกี่ยวกับคำพิพากษาจำคุกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในต่างประเทศ ซึ่ง ป.ป.ส.ได้ให้ข้อเท็จจริงว่าเมื่อปี 2540 กระทรวงการต่างประเทศได้เคยประสานข้อมูลเรื่องนี้ไปยังออสเตรเลีย พบว่า ข้อมูลต่างๆสอดคล้องกับคำพิพากษาในรัฐนิวเซาท์เวลตามที่ตนได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส ก่อนหน้านี้ โดย ป.ป.ส.ได้มอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทุกอย่างให้ กมธ.ได้ตรวจสอบต่อ