'คมนาคม' เร่งดีลแหลมฉบังเฟส 3 พร้อมชงลงนามไม่เกิน ส.ค.นี้ 

'คมนาคม' เร่งดีลแหลมฉบังเฟส 3 พร้อมชงลงนามไม่เกิน ส.ค.นี้ 

“คมนาคม” มั่นใจจบดีลท่าเรือแหลมฉบัง 3 พร้อมชงลงนามภายในเดือน ส.ค.นี้ ยันไม่ล้มประมูล เพราะมีปัจจัยความน่าเชื่อถือหนุน ปักหมุดปี 2568 เปิดให้บริการทุกโครงการอีอีซี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) หรือเจโทร และนายโชอิจิ โอกิวาร่า ในฐานะประธานผู้แทนหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) โดยระบุว่า กระทรวงฯ ได้แนะนำโครงการลงทุนในพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมยืนยันว่าโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซีจะแล้วเสร็จภายในปี 2568

โดยปัจจุบันอีอีซีได้ลงนามพัฒนาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา และล่าสุดได้ลงนามกับเอกชนในโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่นับเป็นโครงการสร้างผลตอบแทนให้แก่รัฐสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 3 แสนล้านบาท

ขณะเดียวกัน การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ยังอยู่ระหว่างเจรจาผลตอบแทนกับเอกชนผู้ชนะการประกวดราคาในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะเจรจาผลตอบแทนแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้ หรือภายในเดือน ส.ค.2563 เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และดำเนินการลงนามสัญญาร่วมทุน

“ตอนนี้อีอีซีเห็นเป็นรูปธรรมแล้ว 2 โครงการ ส่วนท่าเรือแหลมฉบัง3 เอกชนที่ผ่านการประกวดราคา เสนอผลตอบแทนมาต่ำกว่าราคากลาง จึงต้องเจรจาต่อรอง ซึ่งโดยปกติแล้วหากเสนอราคามาต่ำกว่าราคากลาง จะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ก็ต้องพิจารณาอยู่ภายใต้ความน่าเชื่อถือด้วย โดยโครงการนี้ก็น่าจะเดินหน้าได้ ไม่ต้องถึงขั้นประกวดราคาใหม่”

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวอีกว่า กรมทางหลวง (ทล.) ยังอยู่ระหว่างศึกษาก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ส่วนต่อขยายช่วงมาบตาพุด – สนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 7 กิโลเมตร (กม.) เพื่อทำให้ระบบขนส่งของอีอีซีสมบูรณ์แบบทั้งทางบก น้ำ เรือ และอากาศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างประเมินงบประมาณลงทุน เพื่อเสนอขออนุมัติงบจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)