'เอสซีบี' ลุยอุ้มลูกหนี้ฝ่าโควิด ภารกิจปีนี้เน้นดูแลลูกค้า

'เอสซีบี' ลุยอุ้มลูกหนี้ฝ่าโควิด ภารกิจปีนี้เน้นดูแลลูกค้า

“ไทยพาณิชย์” เปิดกลยุทธ์ 4 ด้าน เข็นธุรกิจปี 63 เน้นปล่อยกู้ที่มีคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ เปิดทางเพิ่มรายได้จากธุรกิจประกัน-บริหารความมั่งคั่ง ควบคุมค่าใช้จ่าย ต่อยอดดิจิทัล ยันโควิด-19 ไม่กระทบแบงก์ มั่นใจเงินกองทุนแข็งแกร่ง รองรับวิกฤติในอนาคตได้

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวในงานประชุมผู้ถือหุ้นว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจธนาคารปีนี้ หลักๆ คือ การให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้า จากวิกฤติโควิด-19 และต้องบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อและการเงินอย่างรัดกุม ควบคู่ไปกับการสร้างกำไรให้ธุรกิจธนาคารเติบโต และสร้างรายได้ให้กับธุรกิจใหม่ๆ ในยุค New normal

โดยกลยุทธ์ปี 2563 นี้ มี 4 ด้านที่สำคัญ  1.การให้สินเชื่อโดยเน้นการดูแลด้านคุณภาพ มากว่าการเน้นการเติบโตด้านปริมาณ 2.การเน้นการเพิ่มรายได้ จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง โดยจะใช้โรโบติก มาช่วยสร้างผลตอบแทน ลดต้นทุนจากการให้บริการมากขึ้น  รวมถึงการเพิ่มรายได้จากธุรกิจประกัน 3.การควบคุมค่าใช้จ่าย ให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการทำงาน โดยการเอาเทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุน 4.คือการต่อยอดด้านดิจิทัล โดยการเข้าเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้วิเคราะห์ มารู้จักลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น

สำหรับการเข้าไปช่วยเหลือลูกค้า จากผลกระทบโควิด-19 ผ่านโครงการต่างๆ ช่วงแรกยังไม่มีผลกระทบกับธนาคารที่เป็นลบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ระยะข้างหน้าต้องมาประเมินผลกระทบเหล่านี้อีกครั้ง โดยขึ้นอยู่กับการผ่อนคลายล็อกดาวน์โควิด-19 และการฟื้นตัวของภาคธุรกิจเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันเมื่อสิ้นสุดการพักหนี้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อเนื่อง คือการปรับโครงสร้างหนี้ ให้ลูกค้า เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถชำระหนี้ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อป้องกันการเกิดเอ็นพีแอลได้

อย่างไรก็ตาม ธนาคารเชื่อว่า เงินกองทุนหรือ BIS ที่ 18 % ซึ่งเป็นระดับสูงกว่าเกณฑ์พื้นฐาน และสำรองที่ธนาคารมีอยู่ในระดับสูง รวมทั้งยังได้ตั้งสำรองเข้มงวดมากขึ้นในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา จะทำให้ ฐานะของธนาคารแข็งแกร่ง รองรับวิกฤติที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้าได้

“แผนธุรกิจปีนี้ ในด้านขยายสินเชื่อ น่าจะมีผลกระทบ เรื่องยอดการเติบโต ซึ่งเราเน้นคุณภาพมากกว่า ส่วนด้านค่าใช้จ่าย ที่ลดลง น่าจะเป็นไปในทิศทางบวกกับผลประกอบการ ด้านรายได้ค่าธรรมเนียม ที่เกิดขึ้นจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ธุรกิจประกัน จะเป็นตัวสร้างรายได้ที่ดีให้ธนาคาร โดยเฉพาะไตรมาสแรกที่ผ่านมา ที่รายได้พวกนี้เป็นบวก ส่วนเอ็นพีแอลต้องประเมินอีกครั้ง แต่เราเชื่อว่าหากคลายทุกอย่างแล้ว ธุรกิจและลูกค้าจะกลับมาฟื้น และกลับมาชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้อีกครั้ง”

ส่วน ที่ผ่านมา ธนาคารได้มีมติยกเลิกแผน การซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 16,000 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารมองว่า จากผลกระทบโควิด-19 ที่มีผลกระทบรุนแรง ยังประเมินผลกระทบไม่ได้ชัดเจน ดังนั้นธนาคารจำเป็นต้องเก็บกระสุน หรือส่วนของทุน เอาไว้ช่วยลูกค้า จึงพิจารณายกเลิกซื้อหุ้นคืนไปก่อน

สำหรับการขยายธุรกิจแบงก์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอาเซียน ธนาคารยังเปิดกว้างในการพิจารณาในการขยายธุรกิจต่อเนื่อง หากมีโอกาสที่ดี ผลตอบแทนที่ดี สมเหตุสมผล ในการสร้างโอกาสการเติบโต ธนาคารก็พร้อมพิจารณา แต่การเข้าไปลงทุนหรือซื้อธนาคารในต่างประเทศ ในระยะอันใกล้นี้ยังไม่มีแผน

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ความคืบหน้า กรณี ของ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอน การยื่นศาลฯ ขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ที่คาดว่าผลการพิจารณาจะออกมา ก.ค.-ส.ค. 2563 นี้

ซึ่งหากศาลอนุมัติให้ เพซ เข้าแผนฟื้นฟูกิจการ ธนาคาร ก็จะพร้อมปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติม ให้กับ PACE เพื่อนำไปใช้ก่อสร้างคอนโดนิมิต หลังสวนให้เสร็จ เพื่อนำไปขายต่อ ปัจจุบันโครงการนี้มียอดการจองแล้ว 90 % โดยธนาคารประเมินว่า การใช้เงินกู้เพิ่ม น่าจะอยู่ที่ประมาณ 25% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด