สอบนัดแรก '186 โรงพยาบาล' รับเงินบริษัทยา

สอบนัดแรก '186 โรงพยาบาล' รับเงินบริษัทยา

ดีเดย์สอบ 15 มิ.ย. ปมโรงพยาบาล 186 แห่งรับเงินบริษัทยา เรียกผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูล ปธ.คณะระบุขอบข่ายสอบข้อเท็จจริง หากพบมีมูล พร้อมชง รมว.สธ. ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้อง พร้อมเชิญนักวิชาการที่ให้ข้อมูล ต้องรับผิดชอบเอง

จากกรณีนักวิชาการเปิดเผยข้อมูลโรงพยาบาล(รพ.)ทั่วประเทศ ทั้ง รพ.ทั่วไป รพ.ศูนย์ และ รพ.ชุมชนในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จำนวน 186 แห่ง รับเงินบริจาคบริษัทยา 5% เพื่อนำเข้ากองทุนสวัสดิการของหน่วยงาน หรือกองทุนอื่นในลักษณะเดียวกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2560 ในการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดซื้อยา ห้ามไม่ให้หน่วยงานที่ทำการซื้อทำการหารายได้ในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนทุกประเภทจากบริษัทยา เข้ากองทุนสวัสดิการหน่วยงาน หรือกองทุนอื่นในลักษณะเดียวกัน ทำให้ภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลในสังกัด สธ.เสียหายอย่างมาก

โดยล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข(รมว.สธ.) ได้ลงนามวันที่ 12 มิ.ย.2563 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว จากประเด็นสำคัญระบุถึงต้นเรื่อง สืบเนื่องจาก สธ.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น ที่รับเงินบริษัทยาดังกล่าว ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ 

โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารมว.สธ.เป็นประธาน นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล คณะที่ปรึกษารมว.สธ.รองประธาน และอีก 11 คน ได้แก่ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดสธ.หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการสาธารณสุข พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 5 

นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแห่งประเทศไทย.นางอมรรัตน์ พีระพล ผอ.กองบริหารการคลังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายเรืองรัตน์ บัวสัมฤทธิ์ ข้าราชการบำนาญ นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดสธ. ด้านบริหาร นางนวรัตน์ มาลินีรัตน์ หัวหน้าสำนักนายกรัฐมนตรี นางนิสิตา รอบุญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี และนางรัชดา แถลงคำ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี

มีหน้าที่และอำนาจ คือ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องบริษัทยามีส่วนลดในการจัดซื้อยา จำนวน 5 % เพื่อเพิ่มเป็นเงินสวัสดิการให้กับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2560 ในการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดซื้อยา ห้ามไม่ให้หน่วยงานที่ทำการจัดซื้อทำการหารายได้ ในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนทุกประเภทจากบริษัทยาเข้ากองทุนสวัสดิการหน่วยงาน หรือกองทุนอื่นในลักษณะเดียวกันตามข่าวที่ปรากฏในสื่อต่าง ๆ หรือไม่

ออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลใดหรือหน่วยงานใดมาให้ถ้อยคำ หรือให้คำชี้แจงพร้อมเอกสารข้อมูลหลักฐานหรือวัตถุในที่เกี่ยวข้อง มาเพื่อประกอบการพิจารณาได้ รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐานให้รมว.สาธารณสุขเพื่อพิจารณาสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ด้าน นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารมว.สธ. ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า กรรมการจะมีการประชุมกันครั้งแรกในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย. นี้ เพื่อวางแนวทางการทำงาน ซึ่งต้องขอย้ำว่า กรรมการชุดนี้เป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีนักวิชาการเปิดเผยว่ามี รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 186 แห่ง รับเงินบริษัทยา 5% เท่านั้น ไม่ได้จะไปสอบเอาผิดอะไร โดยจะเชิญนักวิชาการท่านนั้นมาให้ข้อมูลเรื่องเหล่านี้ ภายในสัปดาห์หน้าเช่นเดียวกัน เพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากนายอนุทิน ก็กำชับให้ดำเนินการโดยไม่ชักช้า

     ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการชุดนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงไปถึงกรณีใบเสร็จรับเงินจากบริษัทยาของ รพ.ชุมแพ เมื่อเดือน มี.ค.2561 ด้วยหรือไม่ นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่า กรณีที่ รพ.ชุมแพ ไม่ได้เกี่ยวกับกรรมการชุดนี้ ต้องจำกัดวงหน้าที่ของกรรมการฯ ซึ่งตั้งขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงกรณี รพ.ในสังกัด สธ.186 แห่งเท่านั้น เพื่อต้องการหาว่ามีจริงหรือไม่ 

หากได้ข้อมูลและสอบพบว่ามีมูล ก็จะต้องทำเรื่องถึง รมว.สาธารณสุข เพื่อพิจารณาตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป นักวิชาการก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูดออกมาด้วยว่ามีจริงและมีลักษณะอย่างไร

    วันเดียวกัน เครือข่ายประชาชนอีสานเพื่อความยุติธรรม(คปอธ.) นำโดย พญ.กนกวรรณ ศรีรักษา ในฐานะประธานเครือข่ายฯ ได้นำสมาชิกเครือข่ายฯ กว่า 50 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนการย้าย และการสอบวินัย การตั้งข้อกล่าวหาที่รุนแรงต่อนพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น โดยมีนายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ออกมารับหนังสือ

พญ.กนกวรรณ กล่าวว่า คปอธ.ขอให้พิจารณา ให้ความเป็นธรรมโดยการทบทวนการโยกย้าย การสอบสวนวินัย การตั้งข้อกล่าวหาที่รุนแรงต่อ นพ.ชาญชัย ขอให้รอง ผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่น เป็นผู้รักษาการผู้อำนวยการแทน เพื่อเป็นการรักษาขวัญ และกำลังใจของบุคลากรของ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ทั้งหมด