"Electronics" Sector (4 มิ.ย.63)

"Electronics" Sector (4 มิ.ย.63)

มองการณ์ไกล

Event

แนวโน้มธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์

lmpact

New normal หลัง COVID-19 จะทำให้มีอุปสงค์ data center เพิ่มขึ้น

การที่คนต้องทำงานจากที่บ้าน และประชุมงานผ่านระบบออนไลน์ในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ทำให้อุปสงค์การใช้งาน server ทั้งโลกเพิ่มขึ้นถึง 27% YoY ใน 1Q63 (Figure 1) เราคาดว่าโมเมนตั้มจะยังคงดำเนินต่อไปใน 2Q63 โดยคาดโตอีกถึง 31% YoY และ 3% QoQ จากการที่ยอดส่งออก server ของจีนฟื้นตัวขึ้นหลังคลายมาตรการ lockdown เราคาดว่าสภาวะ new normal หลัง COVID-19 บวกกับการที่ CSP ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Amazon, Microsoft, Google และ Facebook ต่างก็ยังคงตั้งเป้าใช้งบลงทุนCAPEX (~10% YoY ในปี 2563) (Figure 2) ทำให้ทีมวิจัยของ KGI Taiwan ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตของยอดขาย server ทั้งโลกในปี 2563F จากเดิม 5% YoY เป็น 12% YoY (Figure 3)

การนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ยังเป็นไปตามคาด โดยการกีดกันของสหรัฐยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

ถึงแม้ว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบ 5G จะช้ากว่าที่คาดเอาไว้เพราะสถานการณ์ COVID-19 แต่ในขณะนี้การพัฒนาดังกล่าวก็กำลังเร่งตัวขึ้นแล้วในจีน เราคาดว่าในสหรัฐและยุโรปก็น่าจะเร่งตัวขึ้นใน 3Q63 และ 4Q63 ตามลำดับ ทั้งนี้ ความพร้อมและความเร็วในการนำโครงสร้างพื้นฐานของระบบ 5G มาใช้จะทำให้จีนมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นก่อนที่จะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของ KGI Taiwan ที่คาดว่าการนำระบบ 5G penetration rate จะเป็นแบบ V-shape จาก 14% ในปี 2563 เป็น 33% ในปี 2564 ซึ่งเร็วกว่า 4G (Figure 8) ทั้งนี้ หากอิงตาม
ประมาณการของ KGI Taiwan ที่คาดว่าจะมีการส่งออก smartphone ระบบ 5G 190 ล้านเครื่องในปี2563 โดยคาดว่าแบรนด์ของจีนจะกินส่วนแบ่งตลาดไปถึง 44% ซึ่งสูงกว่าส่วนแบ่งตลาดของการส่งออก smartphone ทั้งโลกที่ 39% (Figure 9 – Figure 10)

ประมาณการกำไรของเรายังมี upside อีก และยังมี premium จากการที่ธุรกิจอยู่ในขาขึ้นเต็มที่

ผลประกอบการของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ถูกกระทบจากปัจจัยลบหลายประการ อย่างเช่น เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และขาดแคลนวัตถุดิบ ซึ่งฉุดให้ผลกำไรหดตัวลงถึง 42% YoY ในปี 2562 ทั้งนี้ สถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ทำลายความหวังว่าธุรกิจจะฟื้นได้ในปี 2563 ดังนั้น ปี 2564 จึงจะเป็นปีแรกที่ผลประกอบการเริ่มฟื้น โดยเราคาดว่าจะโต 34% YoY นอกจากนี้ เรามองว่าประมาณการกำไรของเรายังมี upside อีกจากการที่ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์แกว่งตัวในขาขึ้นอย่างเต็มที่ เหมือนตอนที่กำไรของ Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)* และ Hana Microelectronics (HANA.BK/HANA TB)* โตได้ถึง ~30% ในช่วงที่เริ่มใช้เทคโนโลยี 4G ใหม่ ๆ เราคาดว่า DELTA จะได้อานิสงส์จากอุปสงค์ data center ที่เร่งตัวขึ้น ในขณะที่ HANA จะได้อานิสงส์จากอุปสงค์ของ smartphone ระบบ 5G นอกจากนี้ เรามองว่า PER ของหุ้นในกลุ่มสมควรจะมี premium บ้างดังแสดงใน Figure 13 เพราะคิดเป็น PEG แค่ไม่ถึง 1.0x ซึ่งหากอิงจากประมาณการกำไรของเรา HANA และ KCE Electronics (KCE.BK/KCE TB)* จะมี upside มากที่สุดในกลุ่มที่ 37% และ 27% ตามลำดับ

Valuation & Action

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ Neutral โดยยังคงเลือก HANA เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มเพราะจะได้อานิสงส์จากกระแส 5G ในขณะที่กำไรยังมี upside อีกจากการที่อุตสาหกรรมอยู่ในขาขึ้นเต็มที่ และยังมี upside อยู่ในระดับที่น่าสนใจ นอกจากนี้ เรายังชอบ KCE จากการฟื้นตัวของผลประกอบการ
เนื่องจากปัจจัยเฉพาะตัว ทั้งนี้ การที่ราคาหุ้น,u upside ถึงราคาเป้าหมายที่เป็นไปได้อีก 27% จึงเป็นโอกาสให้เข้าซื้อเก็งกำไรได้ เราแนะนำให้ซื้อ HANA โดยให้ราคาเป้าหมาย 1H64 ที่ 36.00 บาท อิงจาก PER ที่ 18.0x (ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม +1.0 S.D.) และแนะนำให้ถือ KCE โดยให้ราคาเป้าหมาย 1H64 ที่ 17.50 บาท อิงจาก PER ที่ 19.5x (ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม +1.5 S.D.)

Risks

ภัยธรรมชาติ มีการปิดโรงงานนอกแผน ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น การจัดส่งสินค้าล่าช้า ขาดแคลนวัตถุดิบ และเงินบาทแข็งค่าขึ้น