'สุทิน' พอใจอภิปราย 3 พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท วันแรก

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 63 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยถึงการอภิปราย 3 พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท เป็นวันที่สองว่า ไฮไลต์จะอยู่ที่การทวงถามถึงมาตรการทางด้านสาธารณสุข และการปฏิบัติการรวมถึงการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีส.ส.กลุ่มหมอของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้อภิปราย รวมถึง ส.ส.ของพรรคก้าวไกลด้วย โดยรายละเอียดนั้นการจัดสรรงบประมาณส่วนเงินกู้เพื่อใช้กับงานด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นงบประมาณที่เท่ากับการใช้จ่ายเกี่ยวกับตราสารหนี้ ที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มนายทุนหรือเจ้าสัว นอกจากนั้นจะมีประเด็นอภิปรายต่อเรื่องแผนการฟื้นฟู อาทิ การเกษตร, การท่องเที่ยว เป็นต้น

นายสุทิน ประเมินถึงภาพรวมของการอภิปรายวันแรก โดยยอมรับว่าการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านยังไม่มีไฮไลต์ใดๆ แต่อยู่ในระดับพอใจ แต่ไม่มาก ดังนั้นในการอภิปรายวันที่สองจะเน้นการเจาะลึกและลงรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ขณะที่การชี้แจงของรัฐบาลนั้น ขาดรายละเอียยดของรายการที่จะใช้งบประมาณ หรือขาดบัญชีแนบท้าย และรัฐมนตรีบางคนชี้แจงข้อมูลที่ตนขอเรียกว่ามั่ว คือ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังนั้นตนขอให้ชี้แจงแก้ตัวในวันสุดท้ายของการอภิปรายย ขณะเดียวกันในการอภิปรายซึ่งข้าราชการชี้แจงแทนรัฐมนตรีนั้นยังไม่มีความชัดเจน ขาดรายละเอียด เหมือนมีเจตนากลบเกลื่อน ส่วนการชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้นตนมองว่าตอบง่ายเกินไป โดยเฉพาะบอกว่าทำมาแล้ว ทำมาโดยตลอด แต่ขาดรายละเอียดว่าทำได้แค่ไหน และเมื่อมีเงินกู้ใช้แล้วจะเพิ่มการทำงานให้ได้ระดับใด

“การลงมติของพรรคฝ่ายค้าน แม้ขณะนี้จะยังไม่มีข้อสรุป แต่หลักพิจารณาสำคัญ คือ การชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจน และสร้างความอุ่นใจต่อการใช้เงินกู้ รวมถึงดูตามเหตุผลไม่ใช่ยึดตามประเพณีปฏิบัติ เบื้องต้นนั้นเนื้อหาว่าด้วยการกู้เงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้นเห็นด้วย แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการกู้ ทั้งนี้คาดว่าวันที่ 30 พฤษภาคมนี้จะมีท่าทีที่ชัดเจนอีกครั้งต่อการลงมติ” นายสุทิน กล่าว

 

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า ส่วนการตรวจสอบที่ฝ่ายค้านเสนอแนะต่อรัฐบาล ทั้งการตั้งกรรมการตรวจสอบหรือการรายงานต่อสภาฯ นั้น ท่าทีไม่ตอบรับ ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลนำรายการที่ได้จากการใช้เงินรายงานต่อสภาฯ ทุกๆ  3 เดือน แทนปีละครั้ง รวมถึงตั้งกรรมการเพื่อเกาะติดการใช้จ่ายเงิน แต่หากสภาฯ ไม่ดำเนินการ หรือญัตติที่พรรคก้าวไกลเสนอให้ตั้งกรรมาธิการ​(กมธ.) วิสามัญตรวจสอบการใช้เงินและแก้ปัญหาโควิด-19 ไม่ได้รับการเห็นชอบ พรรคฝ่ายค้านจะตั้งกรรมการตรวจสอบคู่ขนาน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนกรณีการออกระเบียบคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการเงินกู้ที่มีปัญหาต่อการจัดซื้อจัดจ้าง และเข้าข่ายฮั้วประมูลนั้น ทางฝ่ายค้านจะหารืออีกครั้งว่าจะส่งสัญญาณให้รัฐบาลแก้ไขรายละเอียยเพื่อปิดช่องการทุจริตได้หรือไม่ เบื้องต้นตนมองว่าเป็นระเบียบที่จงใจขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ส่วนการหารือกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อของดเว้นการบังคับใช้มาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน ในเวลา 23.00-04.00 น. หรือ เคอร์ฟิว ช่วงประชุมสภาฯ นายสุทิน กล่าวว่าจะหารือกับ นายชวน ในวันนี้ (28 พ.ค.)