ปรับตัวขึ้น

ปรับตัวขึ้น

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ปรับตัวขึ้น แนวรับ 1270 / 1265 จุด แนวต้าน 1295 / 1300 จุด ปัจจัยลบ คือ ความเสี่ยงที่เช้าวันจันทร์ อาจผิดหวังต่อรายงาน 1Q20E GDP ของไทย และการวิตกต่อผลกระทบกรณีที่ THAI อาจต้องเข้าสู่ภาวะฟื้นฟูฯ ส่วนปัจจัยบวก คือ การอนุมัติให้ธุรกิจ ค้าปลีกขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า กลับมาเปิดใหม่วันอาทิตย์นี้

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

       1) คาดผลประชุมคณะกรรมการ กบศ. ชุดใหญ่ อนุมัติผ่อนปรนเฟส 2 ให้บางธุรกิจกลับมาเปิดได้ตั้งแต่วันอาทิตย์นี้

       2) แนวโน้มการรายงาน 1Q20E GDP ไทย เช้าวันจันทร์ มีโอกาสออกมาแย่กว่าคาดการณ์ของตลาด

       3) บจ.ไทยประกาศงบการเงินต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกหรือลบต่อหุ้นรายหลักทรัพย์

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: China-ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. คาด -7% YoY (Vs เดือน มี.ค. -15.8%) Industrial Production เดือน เม.ย. คาด +1.5% YoY (Vs เดือน มี.ค. -1.1%) Fixed Asset Investment (Ytd) เดือน เม.ย. คาด -10% YoY (Vs เดือน มี.ค. -16.1%), USA-ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. คาด -12% YoY (Vs เดือน มี.ค. -8.4%), EU-1Q20E GDP ครั้งที่ 2 คาดเติบโต -3.8% QoQ (Vs 4Q19 +0.1%), Germany-1Q20E GDP ครั้งที่ 2 คาดเติบโต -2.2% QoQ (Vs 4Q19 0%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทย: ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดการซื้อขายในกรอบ 1275-1290 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1280.40 จุด -14.15 จุด -14.15% วอลุ่ม 4.67 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำลง คือ มีเดีย -2.5% พาณิชย์ -2.24% ธนาคารฯ -1.56% หลักทรัพย์ที่ร่วงกว่า 4% ได้แก่ CPALL KTB MINT CRC HANA PLANB THAI TPOLY HTECH SMPC BGC ALL SAMTEL ส่วนหลักทรัพย์ที่ปรับขึ้นแรง ได้แก่ SUPER EPG UTP NEX SABINA AI LOXLEY MDX PDI SFLEX SQ WICE

+/- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาเป็นบวก หลังร่วงในช่วงเช้า โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารฯ DJ +1.62% Nasdaq +0.91% S&P500 +1.15% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ วิตกเศรษฐกิจขาลงยืดเยื้อ DAX -1.95% CAC40 -1.65% FTSE -2.75%

+ น้ำมันดิบกลับมาปิดบวก: WTI +USD2.27 +9% ปิด USD27.56/บาร์เรล Brent +USD1.94 +6.7% ปิดที่ USD31.13/บาร์เรล หลัง IEA คาดสต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกจะลดลงราว 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใน 2H20E

+ ทองคำบวกต่อเนื่อง: ปิดที่ USD1740.90/ออนซ์ +USD24.50 +1.43% รับข่าวกองทุนอีทีเอฟทอง SPDR Gold Trust เพิ่มการถือครอง 0.8% สู่ระดับ 1092.14 ตัน สูงสุดรอบ 7 ปี

ประเด็นสำคัญ

- COVID -19 Update: พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 4.4 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 3 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.4 ล้านราย เสียชีวิต 8.5 หมื่นราย รองลงมา คือ รัสเซีย สเปน UK สเปน อิตาลี เยอรมนี ส่วนประเทศที่มีการระบาดรอบสอง หลังผ่อนปรนมาตรการ อาทิ เกาหลีใต้ จีน เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 29 ราย 6 ราย และ 933 ราย ตามลำดับ

+ ไทย: Update ณ วันที่ 14 พ.ค. ศบค. รายงาน 1) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ มีจำนวน 1 ราย (Vs วันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ 0 ราย) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,018 ราย 2) จำนวนผู้เสียชีวิต 0 ราย (Vs วันพุธที่ผ่านมา 0 ราย) จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 56 ราย โดยการประชุมศบค.ชุดใหญ่ประชุมวันนี้ คาดอนุมัติผ่อนปรนธุรกิจเฟส 2 อาทิ ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่อยู่ในห้าง ยกเว้น ฟิตเนส โรงภาพยนตร์ โรงเรียนกวดวิชา สวนสนุก สนามพระ ฯลฯ และพิจารณาเวลาเคอร์ฟิวส์เป็น 23.00-4.00 น. จากปัจจุบัน 22.00-4.00 น.

- USA: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ก่อนสูงกว่าคาดการณ์เป็น 2.981 ล้านราย (Vs คาด 2.5 ล้านราย, สัปดาห์ก่อนหน้า 3.169 ล้านราย)

+/- Earnings Results: บจ.ที่รายงานกำไรดีกว่าคาด AMATA COM7 LH STA TFG THG ส่วนบริษัทฯ ที่พลิกจากขาดทุนเป็นกำไรสุทธิ ได้แก่ TRUBB METCO AIE CRANE SAWANG UEC ADB PRG STHAI CHARAN WPH SCI

- THAI: ความไม่แน่นอนของแผนฟื้นฟูฯ ส่งผลกระทบต่อสหกรณ์ผู้ถือพันธบัตรและหุ้น มีแรงไถ่ถอนและถูกเรียกคืนหนี้

- USA: ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่พอใจจีน จากประเด็นเรื่องไวรัสฯ และอาจมีการตัดสัมพันธ์ทางการค้า

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BTS TOP CRC

หุ้นแนะนำ Trading Buy: CPALL BANPU BJC COM7 LH GULF TRUBB METCO AIE

Derivatives: ปิดสถานะ Short S50M20 ออกไปก่อน (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)