‘เกษตร’เล็งขอ 5 หมื่นล้านสร้างฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากเชื่อมชนบท-อุตสาหกรรม

นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมส่งโครงการฟื้นฟูผลกระทบภัยแล้ง และ โควิด-19 วงเงินประมาณ 4.5-5 หมื่นล้าน เพื่อให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)พิจารณาก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท พิจารณา โดยโครงการที่กระทรวงเกษตรฯนำเสนอ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น สร้างโอกาส สร้างงาน ให้เศรษฐกิจฐานราก รองรับคนตกงานมากว่า 1 ล้านคน

จากนี้ต่อไปภาคเกษตรจะโดดเดียวไม่ได้ การฟื้นฟูฐานรากจะเชื่อมทุกภาคส่วนเข้ากับการเกษตร เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ของธุรกิจเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกิดความเป็นธรรมเกษตรกร ให้ได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่สมเหตุสมผล จากปัจจุบันรายได้ที่เกิดจากผลผลิตด้านการเกษตรอยู่ที่พ่อค้าคนกลาง และปลายน้ำของธุรกิจมากกว่า

โครงการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลผลักดันมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากโควิด-19 แล้ว เน้นดำเนินการเพื่อเน้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น กระทรวงเกษตรฯจะเน้นพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก 3 เรื่อง คือ 1.โครงการสร้างความเข้มแข็งในชุมชน เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนโดยให้ชุมชนเสนอโครงการที่สามารถจ้างงานได้ สร้างความยั่งยืนให้ภาคเกษตรของไทยลดรายจ่าย มีรายได้เพิ่มขึ้น มีการบริหารจัดการด้านการเกษตรตรงตามความต้องการของตลาดชุมชน เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และก่อให้กระแสเงินหมุนเวียนในชุมชน

2. เกษตรแปลงใหญ่สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มทำการผลิต การบริหารจัดการร่วมกันและรวมกัน ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึง การจำหน่ายโดยมีตลาดรองรับเพื่อให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และมีคุณภาพได้มาตรฐานลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เชื่อมตลาดสร้างเศรษฐกิจฐานราก

และ 3.พัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนให้ศักยภาพ สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีไว้ใช้เองอย่างเพียงพอ เป็นรวมทั้งเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาการผลิตข้าวและชาวนา กำหนดแนวทางการผลิตข้าวอย่างเป็นระบบ และมีการบริหารจัดการที่ดี มีความปลอดภัย

“รัฐบาลต้องการใช้ภาคเกษตรเชื่อมเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน เพื่อให้เกษตรเป็นฐานรากของเศรษฐกิจเชื่อมภาคเกษตรกับอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นธุรกิจชุมชน สร้างงานให้ท้องถิ่น ทำรายได้ให้เกษตรกร เชื่อมเกษตรกรเป็นท่องเที่ยวเพื่อการเกษตร บริการด้านสาธารณสุข ส่งเสริมการทำสมุนไพรเพื่อส่งออก”