'บีทีเอส-กทม.' เพิ่มมาตรการเข้มงวด ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน สกัด 'โควิด-19'

'บีทีเอส-กทม.' เพิ่มมาตรการเข้มงวด ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน สกัด 'โควิด-19'

"บีทีเอส-กทม." เพิ่มมาตรการเข้มงวด ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รักษาระยะห่าง Social Distancing และเผื่อเวลาหลังแต่ละขบวนสามารถรองรับผู้โดยสารได้แค่ 1 ใน 4 จากภาวะปกติ สกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รถไฟฟ้าบีทีเอส ยังคงเข้มงวดและเพิ่มความถี่ ในการฉีดพ่น และเช็ดทำความสะอาด ภายในขบวนรถไฟฟ้าและจุดสัมผัสร่วม ภายในสถานี และบริเวณรอบสถานีด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพมหานคร เพิ่มมาตรการเข้มงวด เพื่อช่วยจัดระเบียบและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการในสถานีหลัก17 สถานี ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วนช่วงเช้า และรักษาระยะห่าง ไม่เข้ามากระจุกตัวภายในขบวนรถ, บริเวณชั้นชานชาลาและพื้นที่บริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วมากเกินไปซึ่งอาจทำให้มีผู้โดยสารตกค้างอยู่บริเวณพื้นที่รอบนอกสถานีมากขึ้นผู้ใช้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น เพื่อปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างในการเดินทาง (Social Distancing) พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้บริการเผื่อเวลาในการเดินทางให้มากขึ้น และสนับสนุนแนวคิดให้ภาครัฐและเอกชนขยับหรือเหลื่อมเวลาในการทำงาน เพื่อกระจายการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะลดความเสี่ยง และความแออัดในการเดินทางของประชาชน ขณะที่บีทีเอสยังคงเข้มงวดและเพิ่มความถี่ในการฉีดพ่นฆ่าเชื้อเพื่อสกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19)



นอกจากนี้ เพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)บีทีเอสได้นำรถไฟฟ้าทุกขบวนที่มีอยู่ทั้งหมด 98 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวมทั้งหมด 392 ตู้ ออกให้บริการเพื่อรองรับผู้โดยสารอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทำให้การรักษาระยะห่างระหว่างกันไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด แต่สำหรับการเดินทางที่ไม่ใช่ในช่วงเวลาเร่งด่วน ผู้โดยสารยังคงสามารถรักษาระยะห่างในการเดินทางได้ในระดับปกติ ตั้งแต่วันที่7พฤษภาคม เป็นต้นไป