"ปทุมธานี" พบผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมากสุดในไทย

"ปทุมธานี" พบผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมากสุดในไทย

เผย 10 จังหวัด มีจำนวนผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวสูงสุด "ปทุมธานี" อันดับ 1 รองลงมา นนทบุรี กทม. ขณะที่ภาคกลาง พบผู้ออกนอกเคหสถาน -มั่วสุมมาก โฆษก ศบค.แนะทุกคนดูแลจิตใจ ทำความเข้าใจตัวเอง จับมือก้าวพ้นวิกฤตโควิด-19

10 อันดับมีผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวสูงสุด

วันนี้ (15 เมษายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่าสำหรับมาตรการเคอร์ฟิว และพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของไทยนั้น ขณะนี้ ยังมีผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน 3 อันดับแรก คือ 1.เดินทางกลับที่พัก 2.ออกมาทำธุระ และ3.ดื่มสุรา เล่นการพนัน ยาเสพติด ซึ่งถูกดำเนินคดี 747 ราย และตักเตือน 98 ราย ส่วนเหตุของการชุมนุม มั่วสุม 3 ลำดับแรก คือ 1.เล่นการพนัน 2.ดื่มสุรา และ 3.ยาเสพติด มีผู้ถูกดำเนินคดี 81ราย และตักเตือน 6 ราย

จากการรายงานการดำเนินคดีแยกตามภาค วันที่ 15เม.ย.2563 พบว่า ภาคกลาง ถูกดำเนินคดีมากที่สุด โดยเป็นเหตุออกนอกเคหสถาน 182 ราย รวมกลุ่มมั่วสุม 8 ราย จ.ปทุมธานีถูกดำเนินคดีสูงสุด 61 ราย รองลงมาภาคตะวันออก ออกนอกเคหสถาน 84 ราย รวมกลุ่มมั่วสุม 22 ราย จ.ชลบุรีถูกดำเนินคดีสูงสุด 46 ราย และภาคตะวันตก ออกนอกเคหสถาน 105 ราย  และจ.สมุทรสาคร ถูกดำเนินคดีสูงสุด 25 ราย 

158693477351

เมื่อพิจารณาเป็นจังหวัด พบว่า 10 อันดับของจังหวัด ที่มีผู้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานและประกาศห้ามรวมกลุ่มชุมนุม หรือมั่วสุม ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี กทม. ชลบุรี สงขลา สมุทรสาคร ภูเก็ต เชียงใหม่ นครปฐม และสระบุรี  ซึ่งภาพเหล่านี้ สะท้อนให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่งคงในแต่ละจังหวัดว่าต้องดำเนินการอย่างไร เพราะต่อให้บางจังหวัดไม่ได้มีผู้ป่วยยืนยันจำนวนมาก แต่กลุ่มคนที่ฝ่าฝืนเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรค

คนไทยดูแลจิตใจ รัฐดูแลทุกคนเท่าเทียม

นายแพทย์ทวีศิลป์ ฝากถึงประชาชนว่า การดูแลของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยที่มาจากต่างประเทศ หรือคนไทยในประเทศ ไม่ได้แตกต่างเป็นไปตามมาตรฐานด้านสุขภาพ เมื่อกลับเข้ามาแล้วต้องดูแลให้ดี เพราะหากดูแลไม่ดี มีเจ็บป่วย ทำให้เกิดการติดเชื้อ จะเป็นการสูญเสียมากกว่าข้าว 3 มื้อ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้จะเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำตามหน้าที่ และดูแลทุกคนอย่างดี

158693477356

ส่วนคนที่ไม่ป่วย ไม่ไข้ แต่ไม่มีจะกิน สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกประเทศเจอเหมือนกัน ซึ่งประเทศไทยดูแลได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่ทันใจใครหลายคน ดังนั้น ขอให้ทุกคนอดทนในเรื่องนี้ ก้าวผ่านไปด้วยกัน เพราะจะมีช่องทางที่จะบรรเทาทุกข์ไปในหลายๆ ทาง รวมถึงฝากทุกคนให้กำลังใจซึ่งกันและคน เพื่อจะได้ผ่านสถานการณ์เรื่องนี้เป็นอย่างดี

“วันนี้ถึงจะพึงพอใจตัวเลขในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงมีเหตุการณ์ภาพหดหู่ใจให้เห็นโดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีผลกระทบ รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจ และทางจิตใจที่เกิดขึ้นต่อคนไทย ซึ่งเวลาเกิดภาวะวิกฤตร่างกายและจิตใจจะเกิดปฎิกิริยาแตกต่างไปจากเดิม เช่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล ใจสั่น ปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เสียใจ มีภาวะตอบสนองความเครียดอย่างเฉียบพลัน”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

โดยจะเป็นอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน หากใครมีภาวะปรับตัวได้ดี ก็จะหาย แต่ใครมีภาวะการปรับตัวไม่ดีก็จะมีโอกาสเป็นยาวนานกว่านั้น  จึงอยากให้ทุกคนกลับมามองตนเอง เข้าใจตัวเอง สงบสติ พยายามคิด กลั่นกรอง และใช้เหตุผลในเรื่องนี้ อย่าทะเลาะกับใครในบ้านของตนเอง หากทุกคนเข้าใจตัวเอง มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ก็จะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้อย่างดี

158693485258