ไทย พบผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่ 54 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย

ไทย พบผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่ 54 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย

โฆษก ศบค. แถลง พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 54 ราย รวมยอดสะสม 2,423 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 32 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 52 ราย รวมเป็น 940 ราย

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 54 ราย รวมยอดสะสม 2,423 ราย ใน 67 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 32 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 52 ราย รวมเป็น 940 ราย

158642176196

158642177815

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 54 ราย แบ่งเป็น กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ ฯ 49 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 22 ราย ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 21 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 6 ราย และกลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าState Quarantines (เดินทางมาจากอินโดนีเซีย) 5 ราย

158642180455

ทั้งนี้ สำหรับจำแนกตามแผนที่แสดงจังหวัดที่มีผู้ป่วยยืนยันสะสมโควิด-19 มีจำนวน 2,423 ราย ใน 67 จังหวัด ข้อมูล ณ วันที่ 5 เม.ย.2563 แบ่งเป็น กทม.1,242 ราย ภูเก็ต 161 ราย นนทบุรี 142 ราย สมุทรปราการ 103 ราย ชลบุรี 73 ราย ยะลา 70 ราย ปัตตานี 66 ราย สงขลา 47 ราย เชียงใหม่ 40 ราย ปทุมธานี 30 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวน 75 ราย

158642183667

นอกจากนั้น 10 จังหวัดที่ยังไม่รายงานการรับรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่าจากการวิเคราะห์อัตราป่วยโรคโควิด-19 ต่อประชากรแสนคน จำแนกตามจังหวัดที่รับรักษา จำนวน 2,423 คน 67 จังหวัด พบว่า 10 อันดับของจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต 38.95 กรุงเทพฯ 21.90 ยะลา 13.10 นนทบุรี 11.31 ปัตตานี 9.15 สมุทรปราการ 7.79 สตูล (จากอินโดนีเซีย) 4.96 ชลบุรี 4.72 กระบี่ 3.58 สงขลา 3.28

158642187026

ส่วนแผนที่แสดงจังหวัดที่รับรักษาผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ จำนวน 54 ราย แบ่งเป็น กทม. 21 ราย ปัตตานี 11 ราย ชลบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต จังหวัดละ 3 ราย ยะลา 2 ราย เชียงใหม่ ชัยภูมิ ตรัง นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส พัทลุง พิษณุโลก ลำปาง สมุทรปราการ จังหวัดละ 1 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวน 1 ราย

158642190518

นอกจากนั้น ในส่วนของสาเหตุของการพบผู้ป่วยรายแรกในจังหวัดต่างและมาตรการป้องกัน พบว่า ผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด ที่มีความสัมพันธ์กับต่างประเทศ 25 จังหวัด ผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดที่เดินทางมาจาก กทม. 41 จังหวัด โดยมีมาตรการป้องกันที่ต้องทำให้ชัดเจน และอยากเน้นย้ำ คือ ถ้าผู้ที่ต้องการเดินทางกลับมาไทยต้องกักกันเป็นเวลา 14 วัน (state quarantine) รวมถึงมีมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างจังหวัดและการกักกัน 14 วัน งดรวมการรวมตัว งดการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ และเพิ่มระยะห่างทางสังคม

158642195137

“ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศเรื่องแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณีสงกรานต์ มีสิ่งที่ห้ามและงด คือ งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา งดเว้นการรดน้ำ ขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณี และงดการเข้าร่วมกิจกรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก รวมถึงสิ่งที่ต้องปฏิบัติ เพื่อสืบสานเทศกาลประเพณีสงกรานต์ให้ปฎิบัติ ดังนี้ สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน แสดงความกตัญญู และขอพรต่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ โดยถ้าอยู่บ้านเดียวกัน กราบไหว้และขอพรเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร และสวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย หากอยู่ไกลกัน ผ่านช่องทางโทรศัพท์/สื่อออนไลน์” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

158642199017

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องที่น่าสนใจในประเทศไทย มีจ.ชลบุรีได้ปิดเมืองพัทยาอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.เป็นต้นไป รวมระยะเวลา 21 วัน และจ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวในภาคอีสาน ที่ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มีประกาศปิดเมือง ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.-30 เม.ย.2563

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้สาเหตุที่ต้องมีมาตรการคุมเข้มนั้น ในกลุ่มประเทศอาเซียน พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้น ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมดูแลทั้งคนไทยในต่างประเทศ และคนไทยที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศดังนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับผลมาตรการปฎิบัติเคอร์ฟิว ของคืนวันที่ 8 เม.ย.ถึง 9 เม.ย.2563 นั้น จากจำนวนจุดตรวจใน 926 จุดตรวจ สามารถตรวจค้น 28,894 ราย จากผู้ขับขี่รถ 22,102 คัน ออกนอกเคหสถานไม่มีเหตุสมควร 1,221 ราย รวมกลุ่มมั่วสุมในเคหสถานเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ 114 ราย ซึ่งมีการตักเตือน 131 ราย จับกุม 1,204 ราย ดังนั้น ขอประชาชนทุกคนอย่าออกนอกเคหสถาน และปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว เพื่อให้ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างต่อเนื่อง

1586422025100

158642204030